svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

นายกฯ สิงคโปร์ นำพรรค PAP ชนะเลือกตั้งสมัยที่ 14 ถล่มทลาย

นายกรัฐมนตรีลอเรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์ ที่เพิ่งรับตำแหน่งปีที่แล้ว นำพรรคกิจประชาชนชนะเลือกตั้งสมัยที่ 14 โดยกวาดคะแนนเสียงเพิ่มถล่มทลาย นับเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับนายกรัฐมนตรีสมัยแรก

พรรคกิจประชาชน หรือ PAP ของสิงคโปร์ ชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันเสาร์ด้วยคะแนนเสียง 65.57%  และคว้าที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ 87 ที่นั่ง จากทั้งหมด 97 ที่นั่ง ทำให้พรรคชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 14 และจะบริหารประเทศต่อไปอีก 5 ปี หลังจากกุมอำนาจยาวนาน 60 ปี

นายกรัฐมนตรีลอเรนซ์ หว่อง ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2567 แทนลี เซียน ลุง ที่ปกครองสิงคโปร์ยาวนาน 20 ปี ประกาศต่อหน้าผู้สนับสนุนเมื่อคืนวันเสาร์ว่า ครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรค และเป็นประสบการณ์ที่เป็นเกียรติอย่างมากสำหรับเขา พรรคได้รับฉันทามติครั้งใหญ่จากประชาชนอีกครั้ง ทำให้สิงคโปร์อยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการเผชิญหน้ากับโลกที่วุ่นวาย การเลือกตั้งถูกจับตาจากทั้งสื่อ นักลงทุน หรือ รัฐบาลต่างชาติ และผลเลือกตั้งสะท้อนชัดเจนถึงความไว้วางใจ เสถียรภาพและความมั่นใจของชาวสิงคโปร์ต่อรัฐบาล

แม้พรรค PAP ชนะการเลือกตั้งถล่มทลายและกวาดที่นั่งได้ราว 90% มาโดยตลอดนับจากเข้าบริหารประเทศก่อนการประกาศเอกราชเมื่อปี 2508 แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตาอย่างมากว่า ผู้นำพรรครุ่นที่ 4 และนายกรัฐมนตรีสมัยแรกจะทำให้พรรคได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนมากแค่ไหน หลังจากพรรคฝ่ายค้านได้รับคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

นายหว่อง ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีคลังด้วย สามารถผ่านบททดสอบแรกได้อย่างสวยงาม ทำให้พรรคกวาดคะแนนเสียงประชาชนได้ 65.57%  หลังจากพรรคเคยได้คะแนนเสียงเพียง 60.1% ในปี 2563 ซึ่งเป็นหนึ่งในผลเลือกตั้งครั้งที่แย่ที่สุดของพรรค และยังเป็นผู้นำพรรค PAP คนแรก ที่ทำให้พรรคได้รับคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นในการเลือกตั้งครั้งแรกหลังรับตำแหน่ง หลังจากพรรคได้คะแนนเสียงลดลงในปี 2534  และ 2549 หลังนายกรัฐมนตรีคนใหม่เข้ารับตำแหน่ง

นอกจากนี้หว่องยังสามารถสกัดไม่ให้พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักได้ที่นั่งเพิ่มขึ้น โดยยังคงได้เพียง 10 ที่นั่ง เท่ากับผลเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดของพรรคฝ่ายค้าน

ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีประเด็นค่าครองชีพและที่อยู่อาศัยเป็นประเด็นหลักของการหาเสียงและความกังวลของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และยังเป็นปัญหาท้าทายต่อไปสำหรับนายหว่อง ซึ่งเตือนว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ที่พึ่งพาการค้าเป็นหลักอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หากได้รับความเสียหายอย่างหนักจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ สิงคโปร์เจออัตราภาษี 10% แม้ขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ และมีข้อตกลงการค้าเสรีร่วมกันตั้งแต่ปี 2547

PAP เรียกร้องให้ชาวสิงคโปร์เลือกผู้สมัครที่จะเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาในรัฐสภา และไม่ใช่เวลาสำหรับการทดลองทางการเมือง ในช่วงเวลาที่ความวุ่นวายจากภายนอก ซึ่งในที่สุดประชาชนก็เลือกเสถียรภาพและความต่อเนื่องมากกว่าข้อเรียกร้องของพรรคฝ่ายค้านที่ต้องการการตรวจสอบและการถ่วงดุลมากขึ้น

หว่อง บอกด้วยว่า การเลือกตั้งจบแล้ว เราต้องละทิ้งความขัดแย้ง และเดินหน้าไปด้วยกันภายใต้ทีมสิงคโปร์เพื่อฝ่าพายุข้างหน้า