svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

นายกฯ แคนาดา ชนะเลือกตั้ง ลั่นไม่ยอมจำนนต่อคำขู่ทรัมป์

นายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ ของแคนาดา ซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว นำพรรครัฐบาลชนะการเลือกตั้งอีกสมัย ย้ำสร้างเอกภาพในชาติ เพื่อต่อสู้กำแพงภาษี และคำขู่ยึดดินแดนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

นายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ ของแคนาดา ซึ่งไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง และเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของแคนาดาที่จัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (28 เมษายน) หลังผลคะแนนเบื้องต้นระบุว่า พรรคเสรีนิยมของเขาชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 4 ด้วยคะแนนเสียงกว่า 8.3 ล้านเสียง โดยชนะหรือมีคะแนนนำใน 168 ที่นั่งจากทั้งหมด 343 ที่นั่งของสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังขาดอีก 4 เสียง จึงจะสามารถครองเสียงข้างมาก

ขณะที่พรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ชนะหรือมีคะแนนนำใน 144 ที่นั่ง และปิแอร์ พอยริเยฟร์ หัวหน้าพรรค ซึ่งสูญเสียที่นั่งให้กับผู้สมัครของพรรคเสรีนิยม ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว

คาร์นีย์ วัย 60 ปี เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของแคนาดา หลังจัสติน ทรูโด ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยมและพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนที่แล้ว       

เขาตัดสินใจจัดการเลือกตั้งจัดเร็วขึ้นก่อนกำหนดเพื่อขอฉันทามติจากประชาชนในการรับมือความท้าทายจากกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และคำขู่ผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ในจังหวะที่กระแสชาตินิยมทำให้คะแนนนิยมของพรรคเสรีนิยมกระเตื้องขึ้น หลังเคยตามหลังพรรคอนุรักษ์นิยมถึง 20 จุดในการสำรวจเมื่อเดือนมกราคม และการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกมองว่ากลายเป็นการลงประชามติต่อต้านผู้นำสหรัฐฯ โดยปริยาย

คาร์นีย์ กล่าวขณะประกาศชัยชนะ โดยพยายามสร้างเอกภาพภายในชาติที่เกิดความแตกแยก และสัญญาเป็นตัวแทนของทุกคน พร้อมกับโจมตีประธานาธิบดีสหรัฐฯ

เขาบอกว่า ความสัมพันธ์เก่าก่อนกับสหรัฐฯ จบลงแล้ว และระบบการค้าโลกที่เปิดกว้างนำโดยสหรัฐฯ และแคนาดาพึ่งพานับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และสร้างความรุ่งเรืองให้แคนาดาหลายสิบปีได้จบลงแล้ว แคนาดาตกใจกับการหักหลังของสหรัฐฯ และจะไม่ลืมบทเรียนครั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามสร้างความแตกแยกในแคนาดาเพื่อสามารถเข้าครอบครอง แต่สิ่งนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น

นอกจากนี้พอยลิเยฟร์ ประกาศว่า พรรคอนุรักษ์นิยมจะทำงานร่วมกับคาร์นีย์และพรรคอื่น ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์และอธิปไตยของแคนาดา และจะให้ความสำคัญกับแคนาดาอันดับแรก รวมทั้งจะฝ่าฟันกำแพงภาษีและคำขู่ไร้ความรับผิดชอบของทรัมป์

คาร์นีย์ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมือง แต่เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ทรงอิทธิพลทั้งในแคนาดาและอังกฤษ เคยทำงานกับสถาบันการเงินโกลด์แมนแซคส์ของสหรัฐฯ เคยเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา ที่ช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 และเคยเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางของสหราชอาณาจักร และมีส่วนสำคัญช่วยลดผลกระทบจากเบร็กซิต

ตลอดการหาเสียงคาร์นีย์ชูว่าประสบการณ์ของเขาจะช่วยให้เศรษฐกิจของแคนาดาฝ่ามรสุมที่รุมเร้าได้ และให้คำมั่นว่า แคนาดาจะลดการพึ่งพาสหรัฐฯ

และหลังทราบผลเลือกตั้งในแคนาดา บรรดาชาติพันธมิตรทั้งในยุโรปและภูมิภาคอื่น ๆ ทยอยแสดงความยินดีกับผู้นำแคนาดาอย่างรวดเร็ว และย้ำให้คำมั่นปกป้องค่านิยมประชาธิปไตยและระเบียบโลกที่ยึดถือข้อบังคับ และอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า เขามั่นใจว่าคาร์นีย์จะเป็นผู้นำที่เข้มแข็งที่สามารถปกป้องค่านิยมพื้นฐานและผลประโยชน์ที่ชาวแคนาดาและชาวอเมริกันยึดถือร่วมกัน