บุคคลที่มีตำแหน่งเป็นถึงผู้นำของโลกเสรี ที่ทรงอิทธิพลที่สุดอย่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ อาจจะต้องเจอกับบรรยากาศที่ไม่คุ้นชิน ในระหว่างการเข้าร่วมพิธีศพของสมเด็จพระสันตะปาปา หรือ โป๊ปฟรานซิส หลังรายละเอียดของการจัดที่นั่งสำหรับแขกผู้เกียรติจาก 130 ประเทศ รวมถึงประมุข 50 ประเทศ และกษัตริย์ที่อยู่ระหว่างครองราชย์ 10 พระองค์ ระบุว่า..
ทรัมป์ถูกจัดให้นั่งที่นั่งแถวที่ 3 และแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ก็สามารถคาดคะเนได้จากเบาะแสตั้งแต่สมัยพิธีศพของโป๊ปจอห์น ปอล ที่ 2 เมื่อปี 2548
ตามพิธีการ "อันลึกลับ" ของวาติกัน บรรดาอาคันตุกะจากต่างแดน จะได้นั่งรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ที่ด้านหนึ่งของหีบพระศพของโป๊ปฟรานซิส ในขณะที่อาร์ชบิชอป บิชอป ปิตาธิการ และพระคาร์ดินัลสวมชุดสีแดง ที่รู้จักในชื่อ "เจ้าชายแห่งคริสตจักร" (princes of the Church) จะนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม นอกจากนี้ ในพิธีการยังให้ความสำคัญกับสมาชิกพระราชวงศ์คาทอลิก ที่จะได้นั่งแถวหน้า ส่วนแถวที่สองเป็นที่นั่งของราชวงศ์ที่ไม่ใช่คาทอลิก เช่น เจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Wales) ซึ่งเสด็จแทนสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร, สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน, สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน และมกุฎราชกุมารและมกุฎราชกุมารีแห่งนอร์เวย์
จากนั้นแถวที่ 3 จึงเป็นที่นั่งของเหล่าผู้นำโลก, ประมุขแห่งรัฐและอาคันตุกะต่างแดนอื่นๆ รวมทั้งทรัมป์ เช่นเดียวกับ เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป, จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี, และประธานาธิบดีฆาบิเอร์ มิเลย์ แห่งอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของโป๊ปฟรานซิส
ผู้นำโลกยังจะนั่งตามลำดับอักษรตามชื่อประเทศในภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากเป็นภาษาทางการทูตดั้งเดิม ที่ใช้ในการทำพิธีการต่างๆ ซึ่งทรัมป์จะนั่งติดกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ที่เขาปะทะคารมด้วยอย่างดุเดือดที่ทำเนียบขาว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และในสัปดาห์นี้ ทรัมป์เพิ่งจะกล่าวหาเซเลนสกีว่า เป็นอุปสรรคต่อสันติภาพในสงครามกับรัสเซีย
ส่วนผู้นำโลกคนอื่นๆ ได้แก่ เซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ, ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และประธานาธิบดีหลุยส์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา แห่งบราซิล
"ทรัมป์" เคยเยาะเย้ยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ไม่ได้นั่งแถวหน้าในพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร โดยบอกว่า เป็นสัญญาณแห่งความตกต่ำของสหรัฐฯ บนเวทีโลก และยืนยันว่า จะต้องได้ที่นั่งในแถวหน้ากว่า ถ้าเขาเป็นประธานาธิบดี