แคลิฟอร์เนียแซงญี่ปุ่น ขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของโลก

เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ประกาศว่า เศรษฐกิจของรัฐแคลิฟอร์เนียมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก แซงหน้าญี่ปุ่น ขณะพยายามแสดงความกังวลต่อผลกระทบจากการขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเศรษฐกิจของแคลิฟอร์เนีย

ข้อมูลใหม่จากสำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ระบุว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือ จีดีพี สูงถึง 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2567 แซงหน้าญี่ปุ่นที่มีจีดีพี 4.02 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ยังเป็นรองจากจีดีพีของสหรัฐฯ ที่ 29.18 ล้านล้านดอลลาร์, จีน 18.74 ล้านล้านดอลลาร์ และเยอรมนี 4.65 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้แคลิฟอร์เนียยังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 6% ในปีที่แล้ว สูงกว่าทั้ง 3 ประเทศดังกล่าวอีกด้วย

นิวซัม ซึ่งเป็นตัวเต็งที่อาจชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ของพรรคเดโมแครตในปี 2028 กล่าวว่า แคลิฟอร์เนียไม่ได้กำลังวิ่งตาม แต่กำลังวิ่งนำ และเศรษฐกิจแคลิฟอร์เนียกำลังเฟื่องฟู เพราะมุ่งลงทุนทั้งในเรื่องคน, ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และเชื่อในพลังของนวัตกรรม  

แต่เขาเตือนว่า ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจแคลิฟอร์เนียกำลังถูกคุกคามด้วยนโยบายภาษีศุลกากรที่ขาดการไตร่ตรองของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และเนื่องจากเศรษฐกิจแคลิฟอร์เนียเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศ จึงจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครอง

แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดด้วยจำนวนเกือบ 40 ล้านคน และมีมูลค่าจีดีพีคิดเป็น 14% ของสหรัฐฯ นอกจากนี้แคลิฟอร์เนียเป็นแหล่งผลิตด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และยังเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมเทคโนโลยี, ศูนย์กลางอุตสาหกรรมบันเทิงของโลก รวมทั้งเป็นที่ตั้งของท่าเรือใหญ่ที่สุด 2 แห่งของสหรัฐฯ

ในสัปดาห์ที่แล้วนิวซัมยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อยับยั้งมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของทรัมป์ต่อสินค้านำเข้าจากทั่วโลก โดยแย้งว่า เขาไม่มีอำนาจออกคำสั่งดังกล่าว และยังสร้างความชะงักงันต่อตลาดและการค้าของโลก รวมถึงส่งผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจของรัฐแคลิฟอร์เนีย คำฟ้องระบุว่า ทรัมป์ใช้กฎหมายอำนาจฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศเพื่อบังคับใช้ภาษีศุลกากรอย่างไม่ถูกกฎหมายและไม่เคยมีมาก่อน