
นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน แถลงรายงานประจำปีในวันเปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีนในวันพุธ (5 มีนาคม) ว่า รัฐบาลตั้งเป้าว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว ราว 5% ในปีนี้ แต่ยอมรับว่าสภาพแวดล้อมภายนอกที่ซับซ้อนและรุนแรงยิ่งขึ้นอาจส่งผลกระทบมากขึ้นต่อจีนในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการค้า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการปกป้องทางการค้ายิ่งส่งผลให้การขับเคลื่อนของเศรษฐกิจโลกชะงักงัน ในขณะที่รากฐานสำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงไม่มีเสถียรภาพ พร้อมกับให้คำมั่นดำเนินแผนกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
นอกจากนี้รัฐบาลจีนปรับเป้าหมายยอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ในปีนี้ โดยเป็นระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี เพื่อหวังเพิ่มการใช้จ่ายสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจากจีน รัฐบาลวางแผนออกพันธบัตรพิเศษมูลค่า 1.3 ล้านล้านหยวนในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านล้านหยวนในปีที่แล้ว โดยเงิน 300,000 ล้านหยวนจะถูกนำไปใช้อุดหนุนผู้บริโภคสำหรับการซื้อสินค้าประเภทรถยนต์ไฟฟ้า, เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่น ๆ
เขาบอกด้วยว่า ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และความพยายามของประชาชนจีน จะทำให้ประเทศสามารถผ่านพ้นความยากลำบากในการพัฒนาประเทศ และเปรียบเทียบเศรษฐกิจจีนเหมือนเรือสำเภาลำใหญ่ที่จะสามารถฝ่าคลื่นและแล่นได้อย่างมั่นคงสู่อนาคต
การแถลงรายงานของรัฐบาลจีนมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งยกระดับสงครามการค้า โดยเริ่มบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอีก 10% สำหรับสินค้าจากจีนเมื่อวันอังคาร (4 มีนาคม) และจีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้า 15% สำหรับสินค้าสหรัฐฯ บางชนิด ซึ่งรวมถึงสินค้าเกษตร เป็นการตอบโต้
นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังเผยงบประมาณของกองทัพประจำปี 2568 มูลค่า 1.78 ล้านล้านหยต่อที่ประชุมสภาในวันนี้ โดยเพิ่มขึ้น 7.2% จากปีที่แล้ว และเป็นอัตราคงที่ในช่วงหลายปีนี้ รวมทั้งเพิ่มขึ้นด้วยตัวเลขหลักเดียวมาตั้งแต่ปี 2558