สตาร์ชิประเบิดกลางอากาศ หลายเที่ยวบินเปลี่ยนเส้นทางหลบชิ้นส่วน

สเปซเอ็กซ์ เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ยานสตาร์ชิป ที่บรรทุกดาวเทียมจำลอง 10 ดวง ระเบิดกลางอากาศ หลังทะยานขึ้นจากฐานปล่อยในรัฐเท็กซัส  โดยศูนย์ควบคุมภาคพื้นดินขาดการติดต่อกับตัวยานเพียงเกือบ 8 นาทีครึ่งหลังการปล่อย โดยยานส่วนบนสามารถแยกตัวออกจากจรวดซูเปอร์ เฮฟวี บูสเตอร์ และเปลวไฟที่ส่วนท้ายของยานทำให้ยานระเบิด และชิ้นส่วนตกลงในมหาสมุทรแอตแลนติกภายในบริเวณเขตอันตรายตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

สำนักงานการบินพลเรือนของสหรัฐฯ ต้องแจ้งให้เครื่องบินต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียงจุดที่เศษซากยานร่วงหล่นลงมา เปลี่ยนเส้นทางเพื่อความปลอดภัย และเว็บไซต์ ไฟลท์เรดาร์24 รายงานว่า มีเที่ยวบินอย่างน้อย 20 เที่ยวเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงเศษชิ้นส่วน



อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของสเปซเอ็กซ์ โพสต์บนแพลตฟอร์ม "X" ที่เขาเป็นเจ้าของ โดยยอมรับความล้มเหลวครั้งนี้ และบอกด้วยว่า "ความสำเร็จนั้นไม่แน่นอน แต่รับประกันความบันเทิง"  ต่อมาเขาบอกด้วยว่า การระเบิดของสเปซชิประหว่างการทดสอบครั้งที่ 7 นี้ อาจเกิดจากการรั่วไหลของออกซิเจนหรือเชื้อเพลิงในช่องเหนือแผงกันความร้อนของเครื่องยนต์ และยังไม่พบอะไรที่จะทำให้ต้องเลื่อนการทดสอบครั้งต่อไปในเดือนหน้า

แม้การทดสอบครั้งนี้ทำให้สูญเสียยานสตาร์ชิปรุ่นใหม่ แต่ก็ยังประสบความสำเร็จโดยชิ้นส่วนท่อนล่าง คือ จรวดซูเปอร์เฮฟวี บูสเตอร์ สามารถกลับลงสู่พื้น และแขนกลที่ติดตั้งไว้กับแท่นปล่อยจรวด ที่เรียกว่า “ตะเกียบ” สามารถคีบท่อนจรวดไว้ได้

สเปซเอ็กซ์วางเป้าหมายไว้ว่า ในที่สุดยานสตาร์ชิปจะสามารถบรรทุกคนไปดาวอังคารได้ และองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา ยังเลือกใช้สตาร์ชิปเพื่อส่งนักบินอวกาศไปเหยียบดวงจันทร์อย่างเร็วในปี 2570

ขณะที่ก่อนหน้าการทดสอบของสเปซเอ็กซ์ในวันเดียวกันบลู ออริจิน ธุรกิจด้านอวกาศของเจฟฟ์ เบซอส มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง แอมะซอน อี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ ประสบความสำเร็จในการปล่อยจรวด “นิว เกลนน์” ขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จเป็นครั้งแรก