เด็กกว่า 7 ล้านในตุรกี-ซีเรีย ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว
ยูนิเซฟ ประเมิน มีเด็กกว่า 7 ล้านคนทั้งในตุรกีและซีเรียได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และอีกหลายพันคนอาจเสียชีวิต ขณะที่ยังมีปาฏิหาริย์ในตุรกี เมื่อหญิงคนหนึ่งรอดชีวิตหลังติดใต้ซากปรักหักพัง 203 ชม.
กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) เผยแพร่รายงานที่ระบุว่า แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า มีเด็กได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรียเมื่อวันที่ 6 ก.พ. จำนวนเท่าใด แต่มีข้อมูลว่า เด็ก 4.6 ล้านคนอาศัยอยู่ใน 10 จังหวัดที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว และเด็กอีกกว่า 2.5 ล้านคนในซีเรีย
นอกจากนี้ครอบครัวจำนวนมากสูญเสียบ้านเรือน และต้องอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว ท่ามกลางสภาพอากาศหนาว หิมะและฝนตก ยิ่งซ้ำเติมความทุกข์ยากแก่ผู้ประสบภัย ขณะที่ปัญหาการเข้าถึงน้ำสะอาดและสุขอนามัย รวมถึงการรักษาพยาบาลเป็นอีกสิ่งที่น่ากังวลอย่างมาก
แม้หลายฝ่ายเริ่มตระหนักว่า ภารกิจค้นหากู้ภัยใกล้จะสิ้นสุดแล้ว เพื่อปรับเปลี่ยนสู่การบรรเทาทุกข์เพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ผู้ประสบภัย แต่หน่วยกู้ภัยยังคงพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังในพื้นที่ในจังหวัดฮาทัย, คาห์รามันมาราส ที่เป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหว และอาดิยามาน ของตุรกี และบอกว่า ยังคงได้ยินเสียงของผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง
ล่าสุดหญิงคนหนึ่งได้รับการช่วยชีวิต หลังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังในจังหวัดฮาทัยนาน 203 ชม. และยังมีหนุ่มวัยวัย 18 ปีในคาห์รามันมาราส และสองหนุ่มพี่น้องวัย 21 ปี และ 17 ปีในอาดิยามาน ได้รับการช่วยชีวิต หลังติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่มนาน 198 ชม.
และประธานาธิบดีเรเจป ไตยิบ แอร์โดอัน ของตุรกี เปิดเผยว่า มีผู้ประสบภัยมากกว่า 8,000 คนได้รับการช่วยชีวิตจากปรักหักพังทั่วประเทศ นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวทั้งในตุรกีและซีเรียเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเกินกว่า 37,000 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 31,974 รายในตุรกี และอีกกว่า 5,800 รายในซีเรีย
และรัสเซียประกาศในวันอังคารว่า เสร็จสิ้นภารกิจค้นหากู้ภัยทั้งในตุรกีและซีเรีย และเตรียมจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 36 ตันแก่ตุรกี หลังจากส่งทีมกู้ภัยและอุปกรณ์เข้าไปในสองประเทศนี้ตั้งแต่วันแรกที่เกิดแผ่นดินไหว
ขณะที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย ยอมเปิดจุดผ่านแดนที่ชายแดนติดกับตุรกีอีก 2 จุดเพื่อให้สหประชาชาติสามารถจัดส่งความช่วยเหลือข้ามพรมแดนจากตุรกีสู่พื้นที่กบฏในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย
และอาสาสมัครกู้ภัยกลุ่มไวท์ เฮลเมท ยอมรับว่า ภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตในพื้นที่กบฏของซีเรียใกล้สิ้นสุด เนื่องจากไม่พบสัญญาณของผู้รอดชีวิต แต่จะพยายามตรวจเช็กครั้งสุดท้ายในพื้นที่ทั้งหมด และกำลังรวบรวมชื่อผู้สูญหาย
