ยอดดับแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรียเกิน 11,000 ราย
ยอดผู้เสียชีวิตทั้งในตุรกีและซีเรียจากแผ่นดินไหวเพิ่มเกินกว่า 11,200 ราย ผู้นำตุรกีตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย ท่ามกลางกระแสโกรธแค้นเรื่องความช่วยเหลือล่าช้า
ภารกิจค้นหากู้ภัยในตุรกีดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในวันพุธ นับจากเกิดแผ่นดินไหวในจังหวัดกาซิอันเตปของตุรกีเมื่อเช้ามืดวันจันทร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ค้นหากู้ภัยจากนานาชาติร่วมปฏิบัติการกับเจ้าหน้าที่ตรุกีในหลายพื้นที่ และโอกาพบผู้รอดชีวิตในช่วง 72 ชม. แรกหลังภัยพิบัติใกล้หมดลงแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า ยังมีโอกาสพบผู้รอดชีวิตในอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ อาฟเตอร์ช็อค และความรวดเร็วที่ทีมกู้ภัยและอุปกรณ์กู้ภัยสามารถเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย
และแม้มีรายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ยังมีข่าวดีพบเด็กที่รอดชีวิตหลายราย รวมถึง เด็กชายที่ได้รับความช่วยเหลือ หลังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง 52 ชม. ในจังหวัดฮาเตย์ หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวทั้งในตุรกีและซีเรีย เพิ่มเกินกว่า 11,200 ราย โดยในตุรกีมีผู้เสียชีวิต 8,547 ราย และผู้บาดเจ็บเกือบ 50,000 ราย ส่วนในซีเรีย มีผู้เสียชีวิตรวม 2,662 รายในพื้นที่ของรัฐบาลและฝ่ายกบฏ
ขณะที่ประธานาธิบดีเรเจ๊ป ไตยิบ แอร์โดอัน ของตุรกี ลงพื้นที่ในเมืองคาห์รามานมาราส ของจังหวัดคาห์รามานมาราสในภาคใต้ในวันพุธ ( 8 ก.พ.) โดยเมืองนี้อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวในจังหวัดกาซิอันเตปในเช้ามืดวันจันทร์ และเขายังแวะเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยด้วย รวมทั้งมีกำหนดไปยังจังหวัดฮาเตย์ด้วย
และหลังจากมีเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลให้ความช่วยเหลือกู้ภัยในพื้นที่ประสบภัยบางแห่งล่าช้า เขาชี้แจงว่า ในช่วงแรกมีปัญหาเรื่องสนามบินและถนนได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว แต่ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว และจะดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลได้จัดสรรสรรพกำลังและทรัพยากรทั้งหมดที่มีสำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ นอกจากนี้เขาให้คำมั่นว่า จะไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องอยู่ข้างถนน และสัญญาฟื้นฟูคาร์รามานมาราส ภายใน 1 ปี
เมื่อวันอังคาร เขาประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือนในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวครอบคลุม 10 จังหวัดที่ได้รับความเสียหายหนัก
ขณะที่สื่อรายงานอ้างผู้ประสบภัยคนหนึ่งในเมืองอิสเคนเดอรันว่า หลานสองคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง แต่ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว ยังไม่มีความช่วยเหลือเข้ามา และเชื่อว่า เด็กทั้งสองคนอาจไม่รอดชีวิตแล้ว ส่วนผู้รอดชีวิตคนหนึ่งในเมืองอันทักยา บอกว่า ไม่มีเต้นท์ที่พัก หรือ อาหาร สำหรับผู้ประสบภัย นอกจากนี้หลายคนใช้โซเชียลมีเดีย ระบายความไม่พอใจต่อการช่วยเหลือจากภาครัฐที่ยังเข้าไปไม่ถึงพื้นที่
