อาชญากรรมร้ายแรงที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่ มีชื่อว่า "ยามิไบ๊โตะ" มีความหมายว่า "งานพิเศษนอกกฎหมาย" และเกี่ยวข้องกับคดีกรรโชกทรัพย์ ปล้น ทำร้าย ไปจนถึงฆ่าเหยื่ออย่างต่อเนื่องถึง 14 ราย ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวให้ประชาชน ตำรวจก็เร่งมือสืบสวนอย่างเต็มที่ ขณะที่คดีที่สะเทือนขวัญที่สุดคือการปล้นชิงทรัพย์และสังหารหญิงชราวัย 90 ปี ใจกลางกรุงโตเกียว และตำรวจสามารถจับคนร้ายได้ 1 คน
จากการสืบสวนขยายผลและข้อมูลที่ได้จากโทรศัพท์มือถือของคนร้าย พบว่าคดีเหล่านี้มีคนบงการอยู่เบื้องหลัง โดยใช้นามแฝงว่า "ลูฟี่" (Luffy) ตัวละครหลักในอะนิเมะยอดนิยม "One piece"
ลูฟี่ใช้ตัวแทนในการลงมือก่ออาชญากรรมผ่านแอป "Telegram" ด้วยข้อความล่อใจให้คนเข้ามาสมัคร เช่น งานสบาย รายได้ดีและได้เร็ว ซึ่งหนึ่งในคนที่หลงเชื่อไปสมัครผ่านแอปนี้และเข้าสู่วงจรอาชญากรรมไปก่อคดีจนถูกตำรวจจับ ให้การต่อตำรวจว่าเขามีหนี้สินอยู่ 2 ล้านเยน พอเห็นประกาศรับสมัครงานรายได้วันละ1 ล้านเยน ก็เลยตัดสินใจสมัครไป แต่พอถามว่าให้ทำงานอะไรก็ได้คำตอบที่ตรงไปตรงมาว่า "ปล้น" และถ้าเหยื่อขัดขืนก็ให้ "ฆ่าทิ้ง"
เมื่อตำรวจสืบจนถึงต้นตอของผู้บงการก็พบว่า ลูฟี่สั่งงานจาก "ห้องขัง" ในฟิลิปปินส์ ก็ระบุตัวตนได้ว่าคือ "มาซาโตะ อิมะมุระ" (Masato Imamura) กับ "ยูกิ วาตานาเบะ" (Yuki Watanabe) ที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่ในเรือนจำ อยู่ห้องแอร์และมีโทรศัพท์มือถือใช้ตลอด แต่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฟิลิปปินส์อ้างว่า ทั้งสองคนถูกขังรวมกับผู้ต้องขังชาวญี่ปุ่นคนอื่น ๆ รวม 10 คน
ปัจจุบันทางการญี่ปุ่นอยู่ระหว่างทำเรื่องร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปยังญี่ปุ่น ขณะที่เมื่อ 2 ปีก่อน สถานีโทรทัศน์ TBS ได้ทำสกู๊ปเรื่องมิจฉาชีพที่ถูกจับในฟิลิปปินส์ โดยคนที่เปิดโปงเป็นผู้ต้องขังชาวเกาหลี ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าถ้าตอนนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นกระตือรือร้นที่จะนำตัวคนเหล่านี้กลับไปดำเนินคดี อาจไม่เกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดกับหญิงชราก็เป็นได้