แคนาดาเริ่มห้ามชาวต่างชาติซื้อบ้าน ป้องกันปัญหาบ้านราคาแพง

รัฐบาลแคนาดาเริ่มบังคับใช้กฎหมายใหม่ ที่ห้ามคนต่างชาติซื้อบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ในแคนาดา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมราคาที่พักอาศัยให้ไม่ปรับตัวจนแพงเกินไป เพื่อให้ชาวแคนาดาส่วนใหญ่ ยังคงมีกำลังทรัพย์ในการที่จะเก็บเงินซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้

กฎหมายใหม่นี้ เป็นไปตามนโยบายหาเสียงของ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา ที่เขาเคยสัญญาไว้กับประชาชนเมื่อปี 2021 ซึ่งแคนาดากำลังเจอกับปัญหาราคาที่พักอาศัยพุ่งสูงขึ้น จนชาวแคนาดาจำนวนมาก ไม่สามารถซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้ เนื่องจากมีชาวต่างชาติที่ร่ำรวยและนักลงทุนต่างชาติ ให้ความสนใจซื้อบ้านในแคนาดาในช่วงหลายปีทีผ่านมา ทำให้ราคาบ้านมีการปรับตัวสูงขึ้น ตามกำลังซื้อของชาวต่างชาติ เพื่อที่จะทำกำไรสูงสุด

การที่นักลงทุนเข้ามาซื้อบ้านและที่พักอาศัยในแคนาดาเพิ่ม ทำให้บ้านหลายแห่ง ถูกทิ้งให้ว่าง ไม่มีคนเข้าไปพักอาศัย ระหว่างที่กำลังรอการขายต่อ หรือรอคนมาเช่า ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่คนที่เก็บเงินเพื่อที่จะซื้อบ้านเป็นที่พักอาศัยจริงๆ กลับไม่มีโอกาสได้ซื้อบ้านเหล่านี้

ทรูโดมองว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง ซึ่งเขามองว่าบ้านควรจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนได้เข้าไปอาศัย ได้เข้าไปสร้างครอบครัว และคนแคนาดาก็ควรที่จะมีโอกาสในการซื้อบ้านที่เท่าๆ กัน ไม่ใช่แค่นักลงทุนเท่านั้น ที่มีกำลังซื้อบ้านในแคนาดาได้ ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา ทรูโดก็ค่อยๆ ผลักดันกฎหมายห้ามชาวต่างชาติซื้อที่พักอาศัยในแคนาดา ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้เป็นวันแรก โดยจะครอบคลุมชาวต่างชาติเกือบทั้งหมด ยกเว้น ผู้ลี้ภัย และผู้ที่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในแคนาดาเป็นการถาวร หรือ Permanent Resident เท่านั้น ที่ยังคงซื้อที่พักอาศัยในแคนาดาได้อยู่

การออกกฎหมายนี้ ทำให้ราคาบ้านในแคนาดาเริ่มปรับตัวลงมาแล้ว จากที่เคยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 800,000 ดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 20 ล้านบาท ต่อหลัง เมื่อช่วงต้นปี 2022 ตอนนี้อยู่ที่ราคา 630,000 ดอลลาร์แคนาดา หรือ 16 ล้านบาท ต่อหลัง