ประชาชนกว่า 200 ล้านคนทั่วสหรัฐฯ เผชิญสภาพอากาศหนาวเหน็บจนเข้ากระดูก โดยพายุฤดูหนาวจะยังทำให้มีหิมะตกหนักและลมกระโชกแรงปกคลุมทั้งในแถบอัปเปอร์ มิดเวสต์ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และบางแห่งมีอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วถึงขั้นติดลบ 48 องศาเซลเซียส
มีรายงานว่า ในเมืองบัฟฟาโลของรัฐนิวยอร์ก มีหิมะตกวัดได้กว่า 2 ฟุต และความเร็วลมสูงถึง 96 กม./ชม. รวมทั้งทัศนวิสัยลดลงใกล้เป็นศูนย์ในช่วงคืนวันศุกร์เข้าสู่เช้าวันเสาร์ และเจ้าหน้าที่คาดว่า พายุฤดูหนาวจะปกคลุมต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 36 ชม. จนถึงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น
นอกจากนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 22 รายใน 7 รัฐนับตั้งแต่วันพุธ สืบเนื่องจากสภาพอากาศหนาวในสัปดาห์นี้ โดยในรัฐโอไฮโอ มีผู้เสียชีวิตถึง 8 ราย โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนกัน
ถนนหลายสายในเมืองต่าง ๆ มีรถยนต์ติดค้างอยู่บนถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะหรือน้ำแข็ง โดยในเขตอีรี ของรัฐนิวยอร์ก มีรถติดค้างเกือบ 500 คันช่วงคืนวันศุกร์ถึงเช้าวันเสาร์
พายุฤดูหนาวครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปี ยังทำให้เที่ยวบินจำนวนมากถูกยกเลิก กระทบต่อการเดินทางในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยมีการยกเลิกเที่ยวบิน 2,700 เที่ยวในวันเสาร์ และล่าช้าอีก 6,200 เที่ยว หลังจากมีการยกเลิกเที่ยวบินอีกหลายพันเที่ยวเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์
ขณะที่บ้านเรือนและธุรกิจกว่า 3 แสนรายทั่วสหรัฐฯ ไม่มีไฟฟ้าใช้ และบริษัท พีจีเอ็ม อินเตอร์คอนเนคชัน ที่ให้บริการครอบคลุม 13 รัฐในภาคตะวันออก ขอให้ลูกค้าช่วยกันประหยัดไฟช่วงเช้าวันเสาร์จนถึง 10.00 น. ของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยการลดอุณหภูมิเครื่องทำความร้อนลงกว่าปกติ และเลื่อนเวลาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เตาและเครื่องล้างจาน นอกจากนี้บริษัทเตือนด้วยว่า อาจต้องมีการตัดไฟ หากปริมาณไฟฟ้าไม่เพียงพอกับความต้องการ