นพ. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงเมื่อวันพุธว่า WHO รู้สึกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในจีน ที่มีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และเพื่อประเมินความเสี่ยงอย่างรอบด้านเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาด WHO ต้องการทราบข้อมูลจากจีนอย่างละเอียดเกี่ยวกับความรุนแรงของอาการป่วย อัตราการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และความต้องการการรักษาผู้ป่วยวิกฤต
นอกจากนี้เขาบอกว่า WHO สนับสนุนให้จีนมุ่งเน้นฉีดวัคซีนให้กลุ่มเปราะบางที่สุดทั่วประเทศ และพร้อมให้การสนับสนุนด้านการรักษาพยาบาลและการคุ้มครองระบบสาธารณสุของจีน
ขณะนี้รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างเป็นทางการในจีน ถูกมองว่า ไม่อาจเชื่อถือได้ เพราะลดการตรวจคัดกรองทั่วประเทศ หลังมีการผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ล่าสุดมีการปรับเกณ์ใหม่ในการนับจำนวนผู้เสียชีวิตที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยนับเฉพาะการเสียชีวิตจากปอดอักเสบหรือระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และไม่นับรวมผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตด้วยโรคอื่น และโรคประจำตัว
ขณะที่คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีน รายงานในวันพฤหัสบดีว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีอาการป่วย 3,030 ราย ในวันที่ 21 ธ.ค. และไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ และจำนวนผู้ติดเชื้อมีอาการป่วยสะสมเพิ่มเป็น 389,306 ราย และผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 5,241 ราย
นอกจากนี้การระบาดรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในจีน ทำให้ประชาชนแห่กว้านซื้อยาแก้ปวดและยาลดไข้จนเกิดการขาดแคลนในประเทศ และยังส่งผลให้เกิดการกว้านซื้อในฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ประเทศไทย และเลยไปถึงออสเตรเลียเพื่อส่งยากลับไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ จนร้านขายยาบางแห่งต้องจำกัดปริมาณการซื้อ
ล่าสุดรัฐบาลจีนอนุญาตให้มีการนำวัคซีน ที่ผลิตโดยต่างชาติ เข้ามาฉีดในประเทศจีนเป็นครั้งแรก โดยมีข้อตกลงให้เยอรมนีจัดส่งวัคซีน ที่พัฒนาโดยบริษัท ไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนี เพื่อฉีดวัคซีนให้กับชาวเยอรมันเกือบ 20,000 คน ในจีน และวัคซีนล็อตแรกถูกส่งจากเยอรมนีเมื่อวันอังคาร
ที่ผ่านมาจีนอนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาในประเทศรวมทั้งหมด 9 ตัว ซึ่งมากกว่าประเทศใด ๆ ในโลก แต่ไม่มีตัวใดที่ได้รับการพัฒนาให้ป้องกันสายพันธุ์โอมิครอน