โฆษกกระทรวงอุดมศึกษาของอัฟกานิสถาน ยืนยันเมื่อวันอังคารว่า เนดา โมฮัมหมัด นาดีม รัฐมนตรีกระทรวงอุดมศึกษา ลงนามในหนังสือคำสั่งแจ้งถึงมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนทั้งหมดทั่วประเทศให้ระงับการศึกษาของผู้หญิงในมหาวิทยาลัยทุกแห่ง โดยให้มีผลบังคับใช้ทันทีจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
คำสั่งล่าสุดเป็นการจำกัดสิทธิการเข้าถึงการศึกษาของผู้หญิงเพิ่มเติมจากปัจจุบันจำกัดไม่ให้เข้าเรียนในโรงเรียนระดับมัธยมปลายส่วนใหญ่อยู่แล้ว และก่อนหน้านี้เพียง 3 เดือน เด็กหญิงและผู้หญิงหลายพันคนเพิ่งสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ แต่มีการจำกัดวิชาที่จะเข้าเรียนได้ด้วย โดยห้ามเรียนด้านสัตวแพทย์ศาสตร์, วิศวกรรม, เศรษฐศาสตร์ และเกษตรกรรม ส่วนสื่อสารมวลชนมีข้อจำกัดอย่างมาก
นับจากตาลีบันเข้ายึดอำนาจในอัฟกานิสถานเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ก็ออกมาตรการที่แบ่งแยกห้องเรียนและทางเข้าสำหรับผู้หญิง โดยนักศึกษาหญิงจะเข้าเรียนในห้องเรียนที่มีอาจารย์เป็นผู้หญิง หรือ ผู้ชายสูงอายุเท่านั้น นอกจากนี้ในเดือน มี.ค. ปีนี้ ตาลีบันล้มเลิกแผนให้เด็กหญิงกลับเข้าเรียนในระดับมัธยมปลาย
และคำสั่งล่าสุดที่ห้ามผู้หญิงเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ทำให้นักศึกษาหญิงคนหนึ่งถึงกับร้องไห้ และอีกคน กล่าวหาว่า ตาลีบันทำลายสะพานแห่งเดียว ที่จะนำพาเธอไปสู่อนาคต
เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลงว่า สหรัฐฯ ประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงอย่างที่สุดสำหรับการตัดสินใจของตาลีบันครั้งนี้ และบอกว่า การกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้นี้จะต้องได้รับผลลัพธ์ และจะทำให้ตาลีบันถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น และสหรัฐฯ จะแสวงหาหนทางที่จะทำให้ตาลีบันต้องรับผิดชอบสำหรับเรื่องนี้
นอกจากนี้โฆษกของสหประชาชาติ แถลงว่า การเคลื่อนไหวของตาลีบันล่าสุดเป็นการผิดสัญญาอีกครั้ง โดยนับตั้งแต่เข้าบริหารประเทศ ผู้หญิงก็มีเสรีภาพลดลงทั้งในด้านการศึกษา และการเข้าถึงสถานที่สาธารณะอื่น ๆ และในการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน เอกอัครราชทูตของอังกฤษ และเอกอัครราชทูตผู้แทนสำรองของสหรัฐฯ ร่วมประณามตาลีบัน