เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
กวางโจว ที่เป็นศูนย์กลางการผลิตของจีน เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก และประชาชนเริ่มออกมาเดินขบวนประท้วงมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ รวมทั้งมีการปะทะอย่างรุนแรงระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจเมื่อคืนวันอังคาร
ล่าสุดทางการท้องถิ่นในเขตไห่จู, ไป่หยุน, ฟ่านหยู, เตี้ยนเหอ, กงหัว, หัวตู้ และลี่ว่าน ประกาศในวันพุธยกเลิกข้อบังคับควบคุมโรคชั่วคราว เช่น ในเขตกงหัวอนุญาตให้โรงเรียนเปิดสอนในห้องเรียนอีกครั้ง และร้านอาหารและธุรกิจบางประเภท เช่น โรงภาพยนตร์ สามารถเปิดให้บริการได้ แต่บางพื้นที่ที่ยังมีความเสี่ยงสูง จะยังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ต่อไป
และเมื่อคืนวันอังคารเจ้าหน้าที่เมืองกวางโจวประกาศอนุญาตให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 สามารถกักตัวที่บ้านได้
การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคในขณะนี้มีขึ้นหลังจากจำนวนผู้ป่วยลดลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ตัวเลขก็ยังสูงราว 7,000 คนเมื่อวันอังคาร
ขณะที่ในโซเชียลมีเดียมีคลิปวิดีโอแพร่สะพัดขณะผู้ประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโควิด-19 ขว้างปาแก้วและสิ่งของเข้าใส่ ตำรวจปราบจลาจลสวมชุดพีพีอี ที่ถือโล่ป้องกัน และตั้งแถวเดินหน้าเข้าหาผู้ประท้วง ชาวเน็ต ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเขตไห่จูในช่วงกลางดึกคืนวันอังคารจนเข้าสู่วันพุธ
นอกจากนี้ยังมีคลิปที่ผู้ประท้วงรื้อทำลายเตนท์จุดตรวจโควิด และขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจปราบจลาจล ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในพื้นที่เขตไป่ตู้ และยังมีคลิปที่ชาวบ้านรวมตัวรอบเครื่องกีดขวางในเขตลี่ว่าน เพื่อต่อต้านมาตการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อมานานหลายสัปดาห์
China Dissent Monitor ซึ่งดำเนินการโดย Freedom House ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ คาดว่า มีการประท้วงอย่างน้อย 27 แห่งทั่วจีนในช่วงวันที่ 26-28 พ.ย. และ ASPI ที่เป็นคลังสมองในออสเตรเลีย ประเมินว่า มีการประท้วง 43 แห่งใน 22 เมืองของจีน
แต่การประท้วงเบาบางลง หลังจากทางการจีนส่งกำลังตำรวจจำนวนมากรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในพื้นที่ที่มีการชุมนุม และมีรายงานว่า ตำรวจพยายามตามล่าตัวผู้ประท้วง และขอเบาะแสเกี่ยวกับที่อยู่ของพวกเขา ขณะเดียวกันทางการยืนยันยังคงยึดมั่นนโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่อไป แต่บอกว่าจะปรับเปลี่ยนมาตรการควบคุมโรคให้เหมาะสมเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน