ประท้วงลุกลามทั่วจีน ท้าทาย “สี จิ้นผิง” ครั้งใหญ่ที่สุด

นักศึกษาหลายร้อยคนรวมตัวชุมนุมด้านนอกโรงอาหารในมหาวิทยาลัยซิงหวา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของจีนในวันอาทิตย์ โดยชูกระดาษเปล่าสีขาว  และตะโกนต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์  และเรียกร้องระบอบประชาธิปไตยภายใต้หลักนิติธรรม และเสรีภาพการพูด  โดยบอกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญของพลเรือน    

และยังมีนักศึกษารวมตัวในมหาวิทยาลัยหลายสิบแห่งทั่วประเทศช่วงสุดสัปดาห์นี้เพื่อไว้อาลัยแก่เหยื่อไฟไหม้ในซินเจียง และต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ โดยผู้ประท้วงหันมาใช้กระดาษเปล่าในการประท้วงเชิงสัญลักษณ์เพื่อหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์ หรือ การจับกุมจากเจ้าหน้าที่

การชุมนุมต่อต้านล็อกดาวน์ควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวด กำลังลุกลามในหลายเมืองของจีน โดยมีชนวนเหตุจากไฟไหม้ตึกอพาร์ตเมนต์สูง 21 ชั้นในเมืองอูรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ที่มีผู้เสียชีวิต 10 รายเมื่อวันพฤหัสบดี และเกิดกระแสข่าวว่า ผู้อยู่อาศัยหนีออกมาไม่ทันเพราะอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์

นอกจากนี้ยังมีผู้ประท้วงชุมนุมในนครเซี่ยงไฮ้เป็นวันที่สองในวันอาทิตย์ โดยผู้ชุมนุมร่วมร้องเพลงชาติจีน และปะทะกับตำรวจในช่วงค่ำ หลังจากมีกลุ่มผู้ประท้วงร่วมจุดเทียนไว้อาลัยแก่เหยื่อไฟไหม้ในอูรุมชีในคืนวันเสาร์ และตะโกนขับไล่ให้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ลาออก และพรรคคอมมิวนิสต์ออกไป

ส่วนในบางเมืองมีรายงานประชาชนในพื้นที่ที่ถูกล็อกดาวน์รื้อทำลายแผงกั้นที่ปิดทางเข้าออก และเดินขบวนประท้วง

กระแสอารยะขัดขืนที่ขยายวงกว้างในจีนขณะนี้เป็นการท้าทายในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนนับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี เข้าบริหารประเทศเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตามบทบรรณาธิการในหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ พีเพิล เดลี ที่เป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉบับวันอาทิตย์ ระบุว่า จีนจะยังยึดมั่นดำเนินนโยบายควบคุมโรคโควิด-19 อย่างไม่หวั่นไหว และชัยชนะจะเกิดขึ้นได้ด้วยการเดินหน้าจนสุดทาง และย้ำด้วยว่า นโยบายป้องกันและควบคุมโรคของจีนเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์และมีประสิทธิภาพอย่างไม่ต้องสงสัย และขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น