พรรครีพับลิกันคว้าเสียงข้างมากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ
พรรครีพับลิกันสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หลังกวาดที่นั่ง ส.ส. ได้เกินครึ่ง แต่น้อยกว่าที่คาดหวัง
สื่อหลายสำนักงานของสหรัฐฯ รายงานตรงกันว่า พรรครีพับลิกันสามารถคว้าเก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ถึง 218 ที่นั่ง เกินครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 435 ที่นั่งแล้ว เมื่อไมค์ การ์เซีย ผู้สมัครของพรรคชนะเลือกตั้งในเขตที่ 27 ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่พรรคเดโมแครตได้ 223 ที่นั่ง แต่ยังมีอีกหลายที่นั่งที่ผลการนับคะแนนยังคงสูสี และอาจยังไม่ทราบผลได้ในอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ขณะที่มีแนวโน้มที่รีพับลิกันอาจมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรน้อยที่สุดในศตวรรษที่ 21 เทียบได้กับปี 2544 ที่พรรครีพับลิกันมี ส.ส.มากกว่าพรรคเดโมแครตเพียง 9 ที่นั่ง ที่ 221-211 ที่นั่ง และส.ส. อิสระอีก 2 ที่นั่ง
เควิน แมคคาร์ธี ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกัน เตรียมทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ แทนที่ แนนซี เพโลซี จากพรรคเดโมแครต เมื่อสภาชุดใหม่เปิดสมัยประชุมและเลือกประธานคนใหม่ในเดือน ม.ค. ปีหน้า
ส่วนเพโลซี วัย 82 ปี ซึ่งเป็นประธาน ส.ส. หญิงคนแรก ยังไม่ตัดสินใจว่า จะรับหน้าที่เป็นผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาหรือไม่
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงความยินดีกับแมคคาร์ธี ที่รีพับลิกันชนะครองเสียงข้างมากในสภาล่าง และบอกว่า พร้อมทำงานร่วมกับสภาล่างของรีพับลิกันเพื่อครอบครัวผู้ใช้แรงงาน
พรรครีพับลิกันสามารถทวงคืนอำนาจในสภาล่างได้ แม้พลาดหวังไม่เกิด “เรดเวฟ”หรือ “คลื่นสีแดง” ที่พรรคสามารถคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ขณะที่พรรคเดโมแครตยังสามารถรักษาเสียงข้างมากในวุฒิสภาไว้ได้
แต่เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ก็ทำให้พรรครีพับลิกันสามารถเปิดการตรวจสอบข้อตกลงทางธุรกิจในต่างประเทศ ของนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของผู้นำสหรัฐ และอาจยุบคณะทำงานตรวจสอบเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.
อย่างไรก็ตามเมื่อรีพับลิกันไม่สามารถกุมอำนาจในสภาสูง ก็จะไม่สามารถผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายที่พรรคเสนอได้ โดยไม่ได้เสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครต ยิ่งกว่านั้นประธานาธิบดีไบเดนยังสามารถวีโต หรือ ใช้อำนาจยับยั้ง เพื่อคว่ำร่างกฎหมายที่ผ่านสภาได้
ผลเลือกตั้งที่ออกมาผิดคาดของรีพับลิกัน ทำให้เกิดความแตกแยกภายในพรรค และการกล่าวโทษว่า ความล้มเหลวเป็นเพราะอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ และมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน
และแม้แมคคอนเนลล์ยังได้รับเลือกจากพรรคให้เป็นผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาอีกครั้ง แต่ก็มีเสียงคัดค้านที่บอกอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง หลังจากเขาดำรงตำแหน่งนี้มายาวนานเกือบ 15 ปี
