เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ นาซา ปล่อยจรวด สเปซ ลอนช์ ซิสเต็ม หรือ SLS ที่มีความสูงเทียบเท่าตึก 32 ชั้น ทะยานขึ้นจากฐานปล่อยที่ศูนย์อวกาศเคนเนดีในแหลมคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา เมื่อเวลา 1.47 น. ของวันที่ 16 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อทำหน้าที่ส่งแคปซูล “โอไรออน” ไปปฏิบัติภารกิจโคจรรอบดวงจันทร์ ซึ่งจะเป็นการปูทางสู่การส่งนักบินอวกาศไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ในอนาคต นับจากสิ้นสุดโครงการอพอลโลเมื่อ 50 ปีที่แล้ว
แคปซูล “โอไรออน” ที่ไม่มีมนุษย์เดินทางไปด้วย สามารถแยกตัวออกจากจรวดได้สำเร็จในอีกเกือบ 2 ชั่วโมงต่อมาหลังการปล่อย เพื่อเดินทางต่อไปยังดวงจันทร์ด้วยตัวเอง โดยจะโคจรรอบดวงจันทร์ในระยะ 97 กม. จากพื้นผิว และเดินทางเลยดวงจันทร์ไปอีกกว่า 64,000 กม. แล้วกลับสู่โลก
การปล่อยจรวดยักษ์ที่ทรงพลังที่สุดครั้งนี้เป็นความพยายามครั้งที่ 3 หลังจากในช่วง 10 สัปดาห์ที่ผ่านมาประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิค 2 ครั้ง และมีการย้ายจรวดจากฐานปล่อยไปยังโรงเก็บเนื่องจากพายุเฮอร์ริเคน 2 ลูก และในการส่งจรวดครั้งล่าสุดล่าช้ากว่ากำหนดราว 40 นาที เนื่องจากประสบปัญหารั่วไหลของถังเชื้อเพลิงในช่วงไม่กี่ชั่วโมงสุดท้ายก่อนเวลาปล่อยจรวด
ภารกิจ “อาร์ทิมิส 1” ครั้งนี้เป็นการส่งแคปซูล ที่ถูกออกแบบให้บรรทุกนักบินอวกาศไปโคจรรอบดวงจันทร์ และเดินทางกลับสู่โลกรวมระยะเวลา 26 วัน โดยคาดว่า จะลงจอดในมหาสมุทรแปซิฟิกนอกชายฝั่งเมืองซานดิเอโกในวันที่ 11 ธ.ค. ข้อมูลจากการเดินทางครั้งนี้จะนำไปใช้พัฒนาสำหรับภารกิจส่งมนุษย์ไปรอบดวงจันทร์ในปี 2567 และส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์อย่างเร็วในอีก 1 ปีถัดไป