นิโค อาฟินตา บัญชาการตำรวจจังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซีย แถลงในวันนี้ว่า เกิดเหตุปะทะกันระหว่างแฟนบอลของสองทีมคู่แข่งภายในสนามกีฬากันจูรูฮาน ในเมืองมาลัง จังหวัดชวาตะวันออก หลังทีมเปอร์เซบายา สุราบายา เอาชนะทีมอาเรมา มาลัง ด้วยคะแนน 3 ต่อ 2 ในการแข่งขันรายการอินโดนีเซีย พรีเมียร์ ลีกเมื่อคืนวันเสาร์ ทำให้ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลาย และแฟนบอลหลายร้อยคนแตกตื่นวิ่งกรูกันไปที่ประตูทางออก ทำให้เกิดการเหยียบกัน
ผู้บัญชาการตำรวจชวาตะวันออก ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 ราย ซึ่ง 2 รายเป็นตำรวจ และ 34 รายเสียชีวิตเกือบทันทีในที่เกิดเหตุ และที่เหลือเสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาลหรือระหว่างการรักษา หลายรายเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ และอีกหลายรายเสียชีวิตจากการเหยียบกัน นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บเกือบ 180 ราย แต่หลายคนอาการแย่ลง ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้น
ล่าสุดเอมิล ดาร์ดัก รองผู้ว่าการจังหวัดชวาตะวันออก ยืนยันมีผู้เสียชีวิต 125 ราย ลดลงจากที่เขารายงานก่อนหน้านี้ว่า 174 ราย และผู้บาดเจ็บกว่าร้อยคนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 8 แห่ง ซึ่ง 11 คนมีอาการขั้นวิกฤต
สื่อท้องถิ่น รายงานว่า หลังทีมอาเรมาแพ้ในบ้านตัวเอง ทำให้แฟนบอลหลายสิบคนวิ่งลงไปที่สนาม และเข้าทำร้ายแฟนบอลทีมเยือน ตำรวจจึงใช้แก๊สน้ำตาทั้งในสนามและบนอัฒจันทร์เพื่อระงับเหตุ ทำให้แฟนบอลวิ่งหนีเตลิด และหลายคนเกิดอาการหายใจไม่ออกและบางคนเป็นลม
ไซนุดดิน อามาลี รัฐมนตรีกีฬาอินโดนีเซีย แถลงแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์น่าเศร้าสลดที่เกิดขึ้น และยืนยันว่า จะมีการสอบสวนอย่างละเอียดเกี่ยวกับความปลอดภัยของการจัดการแข่งขันและอาจพิจารณาไม่อนุญาตให้แฟนกีฬาเข้าชมการแข่งขันในสนาม
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด สั่งระงับการแข่งขั้นทั้งหมดในการแข่งขันลีก BRI LIga 1 จนกว่าจะได้ข้อสรุปผลการสอบสวนโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ขณะที่มีรายงานว่า การแข่งขันนัดนี้จำหน่ายบัตรเข้าชมมากถึง 42,000 ใบเกินกว่าความจุของสนามที่รองรับได้ 38,000 ที่นั่ง และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ย้ำว่า ไม่ควรมีการใช้แก๊สน้ำตาควบคุมฝูงชนในการแข่งขันฟุตบอล
ที่ผ่านมาเหตุรุนแรงในการแข่งขันฟุตบอลเป็นปัญหามานานในอินโดนีเซีย และมักเกิดการปะทะกันระหว่างแฟนบอลของทีมคู่แข่งจนทำให้มีผู้เสียชีวิต