เด็กชายวัย 10 ขวบจีนยอดกตัญญู ยอมเจ็บเพื่อแม่ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง

เกา ซวนอี้ เด็กชายยอดกตัญญู วัย 10 ขวบ จากมณฑลอันฮุย ทางตะวันออกของจีน  ต้องการช่วยชีวิตแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukaemia) โดยบริจาคไขกระดูกเพื่อนำไปปลูกถ่าย ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า "การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด" แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายและเป็นเรื่องที่เกินตัวไปด้วยซ้ำสำหรับเด็กวัยอย่างเขา ตั้งแต่การถูกฉีดยากระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิด (stem cell drug) ซ้ำ ๆ ที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่ดีนักต่อร่างกายของเขา ที่เขาอธิบายว่ามันช่างทุกข์ทรมาน และเหมือนกับกำลังถูก "มดรุมกัดทั่วร่างกาย" 

"ซวนอี้" เป็นข่าวใหญ่พาดหัวในสื่อจีนเมื่อเดือนมีนาคม เมื่อเขาต้องเดินทางยาวไกล 400 กิโลเมตร ไปยังเมืองซู่โจว เพื่อทดสอบเลือดว่าสามารถเป็นผู้บริจาคได้หรือไม่ นั่นคือการถูกเจาะเลือดไป 30 ถุง เพื่อตรวจว่าไขกระดูกของเขาแมทช์กับของแม่ของเขาหรือไม่ แต่แม้จะเข้ากันได้แต่การผ่าตัดไม่ได้เกิดขึ้นทันที เพราะเกา หมิงเซียะ แม่วัย 33 ปี ของเขา เกิดอาการแทรกซ้อนจากโรคมะเร็งอย่างไม่คาดฝัน แต่ในที่สุด ความกตัญญูและความอดทนของเขาก็ไม่สูญเปล่า เพราะการผ่าตัดปลูกถ่ายให้แม่ของเขา ที่มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ (29 สิงหาคม) ประสบความสำเร็จด้วยดี 

เกา ซ่ง วัย 33 ปี ผู้เป็นพ่อ ได้โพสต์คลิปวิดีโอลง Douyin ถามลูกชายก่อนการผ่าตัดว่า "กลัวไหม?" เด็กชายตอบอย่างหนักแน่นว่า "ไม่" และทำมือเป็นสัญลักษณ์ของ "ชัยชนะ" ด้วย ...ในวันผ่าตัดซวนอี้ไปถึงโรงพยาบาลตั้งแต่เวลา 07.00 น. และได้รับโดสสุดท้าของยากระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิด ที่จะทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดในเลือดที่ร่างกายผลิตขึ้น เด็กชายบอกว่า

"ผมไม่รู้สึกเจ็บมากตอนที่ฉีดยาเข็มสุดท้าย เพราะผมดีใจที่สามารถช่วยชีวิตแม่ได้แล้ว"

"ผมไม่กลัวเมื่อพ่ออยู่ที่่นี่กับผม และการเอาไขกระดูกออกก็ใช้เวลาแค่ 3 ชั่วโมง มันเทียบไม่ได้กับการรักษาชีวิตแม่ของผม" 

พ่อของซวนอี้ พูดถึงความตั้งใจของลูกชายด้วยว่า เขาใช้ช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนในการเตรียมตัวบริจาคไขกระดูกให้แม่ โดยในช่วง 4 วันก่อนผ่าตัด เขายังต้องฉีดยากระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิด ที่ทำให้เขามีอาการปวดกล้ามเนื้อและเจ็บปวดอื่น ๆ อีกสารพัด ขนาดผู้ใหญ่ยังโอดครวญว่าทรมานแต่ซวนอี้ไม่เคยบ่น เขาบอกว่า...

"ช่วง 2 ชั่วโมงแรกที่ฉีด มันจะปวดไปตามอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ทั้งยังคลื่นไส้ด้วย แต่ผมทนได้เพื่อช่วยแม่ ผมรักแม่มากและมีความสุขที่แม่เป็นแม่ของผม" 

แพทย์ที่ทำการรักษาบอกว่า ขั้นตอนต่อไปจะเน้นไปที่เรื่องการฟื้นฟูการผลิตเลือดของแม่เด็ก ซึ่งเธอก็พูดอย่างมีความหวังว่า การรักษาเธอจะประสบความสำเร็จ...