สิงคโปร์ไฟเขียว "ไม่ฉีดวัคซีน" เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว

แถลงการณ์จากกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ เมื่อวันพุธ (24 ส.ค.) ระบุว่านักเดินทางที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ครบโดส จะไม่ต้องกักตัวในที่พักนาน 7 วันเมื่อมาถึงสิงคโปร์แล้ว เริ่มตั้งแต่ 23.59 น. ของวันที่ 28 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หลังการระบาดของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 (BA.5) รอบล่าสุดทุเลาลง

กระทรวงฯ เผยว่าสิงคโปร์ได้ฝ่าฟันการระบาดของเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 โดยไม่บังคับใช้ข้อจำกัดภายในประเทศหรือการเดินทางเพิ่มเติม เนื่องจากอัตราฉีดวัคซีนโดสปกติและโดสกระตุ้นอยู่ในระดับสูง และตอนนี้สิงคโปร์ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้นในการมุ่งหน้าสู่หนทางการใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19

แถลงการณ์จากกระทรวงฯ เผยแผนการยกเลิกเกณฑ์ปัจจุบันที่กำหนดให้ผู้ถือบัตรผ่านระยะยาวและวีซ่านักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ อายุ 13 ปีขึ้นไป ซึ่งยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดส ยื่นขออนุมัติเข้าสิงคโปร์ ทว่านักเดินทางที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนครบโดสจะยังต้องแสดงผลตรวจโรคที่เป็นลบภายใน 2 วันก่อนออกเดินทางมายังสิงคโปร์

นอกจากมาตรการด้านพรมแดนแล้ว สิงคโปร์เตรียมยกเลิกข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยตามพื้นที่ในร่มส่วนใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. ยกเว้นบางสถานที่ เช่น สถานพยาบาล สถานสงเคราะห์คนชรา และระบบขนส่งสาธารณะ

กระทรวงฯ เน้นย้ำว่าจะยังคงเฝ้าระวังต่อไป เนื่องจากสถานการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วด้วยการอุบัติของเชื้อไวรัสฯ กลายพันธุ์ใหม่ๆ พร้อมแนะนำประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ โดสกระตุ้นรอบสอง ขณะเด็กอายุ 5-11 ปี จะได้รับวัคซีนโดสกระตุ้นรอบแรก เพื่อเตรียมพร้อมรับมือคลื่นการระบาดถัดไปให้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ สถิติของกระทรวงฯ รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในท้องถิ่นลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม โดยอัตราการติดเชื้อลดต่ำกว่าร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ และประชากรในสิงคโปร์กว่าร้อยละ 90 ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว

ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายวันของสิงคโปร์ เฉลี่ย 7 วัน ลดเหลือ 2,700 ราย เมื่อนับถึงวันที่ 23 ส.ค. จากระดับสูงสุดที่ 10,200 รายในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ส่วนยอดผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลรายวันลดลงครึ่งหนึ่ง จากระดับสูงสุดที่มากกว่า 800 รายในเดือนกรกฎาคม เหลือต่ำกว่า 400 ราย