
ตัวแทนสาวไทย ชนนิกานต์ สุพิทยาพร หรือ “กานต์” อายุ 25 ปีเกิดและเติบโตที่จังหวัดเชียงใหม่ บัณฑิตป้ายแดงจาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ เจ้าของตำแหน่ง นางสาวไทย 2566 เวทีประกวดนางงามที่เป็นตำนานและเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยสู่การสู้ศึกใหญ่ Miss Global 2023 ซึ่งปีนี้มีทั้งหมด 80 ประเทศ, EMBEDDING BEAUTY WITH IN สวยจากภายในและยังครบรอบ 10 ปี เลยจัดให้ใหญ่ขึ้นด้วยการมี Hostหรือประเทศเจ้าภาพสองประเทศด้วยกันคือ เวียดนาม และกัมพูชา
ตอนแรกที่ต้องมาประกวด Miss Global 2023 คือตกใจมาก เพราะต้องยอมรับว่าไม่รู้จักเวทีนี้มาก่อน เลยบอก “แม่ปุ้ย ปิยาภรณ์” ว่าขอไปศึกษาก่อนได้ไหม จนเราอินกับเวทีนี้เพราะอยากเป็นคนแรกที่ทำให้คนไทยรู้จักเวทีนี้มากขึ้นด้วยตัวเราเอง
บริบทเวทีนี้ต่างกับนางสาวไทยมาก กานต์ต้อง Represent Thailand ในแบบใหม่ที่โมเดิร์นขึ้น เพราะเรามีคอนเซ็ปท์
From Local to Global เวทีนี้ต้องเปลี่ยนลุคไปเยอะเลย แต่ยังเป็นตัวนะคะแค่ติดเครื่องมือให้พร้อมรบมากขึ้นอย่างเช่นลุคที่ไม่ได้ดูสวยหวานอย่างที่ผ่านมา อย่างที่สองคือการเดินที่ต้องมี power มากกว่าเดิม
หัวใจของ Miss Global Organizationหัวใจของเวทีนี้ Miss Global ตั้งไว้สามข้อด้วยกัน คือ EMPOWERING WOMAN เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้จากเรื่องราวของเราเอง, EMBRASING CULTURE เป็นคนที่ต้องน้อมรับวัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่เข้าประกวด
เข้าสู่วงการนางงาม
เริ่มมีคนมาเห็นแววช่วงปลายปี 2561 ก่อนกานต์จะได้เป็นนายกสโมสรนักศึกษาแต่มาได้ตำแหน่งจริงๆ ช่วงปี 2562 ด้วยการทำกิจกรรมและทักษะการพูดของเราทำให้ได้มงกุฎตั้งแต่เวทีแรกกานต์ไม่เคยคาดคิดว่าจะมาเป็นนางงามเพราะเป็นคนทำกิจกรรมอยู่เบื้องหลัง โทรมมากอดนอนเป็นหมีแพนด้า
แต่พี่เลี้ยงคนแรกเห็นบางอย่างที่มากกว่าหน้าตาและบุคลิก
ในตอนที่เจอกันที่งานประกวดแอมบาสเดอร์ของธนาคารหนึ่ง
ตอนนั้นกานต์โชว์ความสามารถพิเศษคือ หรีด การพูด ภาษามือ
และรำ เค้ามาทักว่าสนใจไปประกวดนางงามมั้ยคุยกันแล้วคลิกเลยนัดเจอคุณแม่ แต่สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจลองจริงๆ คือ เป้าหมายที่ “อยากจะพัฒนาตัวเองรอบด้าน”เลยไม่อยากทิ้งโอกาสแม้จะไม่เคยเกิดขึ้นหรือไม่เคยทำมาก่อนก็เลยลองทำดู
การประกวดนางงามมันดีมาก
เพราะเราถ่ายทอดทุกสิ่งที่เป็นตัวของเราเอง ไปให้คนอื่นเห็นมันต่อยอดการเป็นเด็กกิจกรรมของตัวเองได้กว้างมากเลยอินกับการเป็นนางงาม ที่สำคัญมันสร้างรายได้ให้กับเราเพราะเราเดินสายประกวดกับพี่เลี้ยงแล้วเอาเงินที่ได้รางวัลมาจ่ายค่าเทอม มาดูแลครอบครัวทำให้เราได้พัฒนาตัวเองไปพร้อมๆ กับการได้เงินเลี้ยงดูตัวเองดูแลครอบครัว และเรียนไปพร้อมกัน
จุดเริ่มต้นศึกษาก่อน “ภาษามือ” จะเป็นไวรัล
เริ่มศึกษาภาษามือตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีสองตอนนั้นไปเป็นวิทยากรให้น้องๆ ผู้บกพร่องหลายๆ ด้านทั้งทางสายตา ร่างกาย และการได้ยิน การรู้สึกว่ามันยังไม่สุดมันเหมือนการทำกิจกรรมแบบ One Way Communicationเลยอยากเข้าใจเค้าว่า อยากได้ในสิ่งที่เราทำให้หรือเปล่าเลยเป็นแรงบันดาลใจให้เรียนภาษามือและอักษรเบรลล์ซึ่งเป็นวิชาที่สามารถเรียนได้ฟรีที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ย้อนกลับไปวินาทีที่กานต์ได้รับตำแหน่งและสื่อสารด้วยภาษามือ
เพราะกานต์อยากให้น้องๆ ผู้พิการทางการได้ยินรู้ว่า
“กานต์ทำสำเร็จแล้ว พี่ทำได้แล้วนะ น้องๆก็ต้องทำได้เหมือนกัน เราจะพัฒนาในมุมของตัวเองไปด้วยกัน”เพราะกานต์จะบอกน้องๆ เสมอว่า การประกวดครั้งนี้ถ้าไม่มีน้องๆ กานต์คงไม่ประสบความสำเร็จหลังจากกานต์มองไปหาคุณแม่จากบนเวทีกานต์ก็มองหากล้องเพื่อนที่จะสื่อสารไปหาน้องๆ และคุณครูโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ทันทีเพราะรู้ว่าน้องๆ ไม่สามารถมาเชียร์เราได้กานต์คลุกคลีกับน้องๆ มาตลอด ถ้าตามหลักคือน้องๆ
สอนภาษามือให้กานต์ แต่กานต์จะคอยทำกิจกรรมกับน้องๆ
เพ้นท์กระโปรง เพ้นท์เสื้อ เพื่อนำไปประมูลมาเป็นทุนการศึกษาให้น้องๆ