ได้ข่าวว่า "พี่บี๋" โดนยกเค้า แต่ไม่คิดว่าหมดตัว ?
“นับหนึ่งใหม่เลย มันงัดทั้งเซฟ รู้จักคนร้ายมาระยะนึง เขาเป็นอดีตพนักงานแบงก์อยู่ที่อำนาจเจริญ แล้วเขามาขายประกัน ขายอะไรให้ จากนั้นผ่านไปหลายเดือน เขาก็มาแจ้งเราว่า เขาป่วยเป็นมะเร็งระยะ 2 ร่างกายไม่สามารถทำงานปกติได้ ตอนแรกก็ยังไม่เชื่อ แต่เขาบอกว่าที่บ้านเขา แม่เป็นเนื้องอกในสมองด้วย พ่อหลบหนีคดีทางการเมืองอะไรสักอย่าง ทำให้เชื่อใจ เพราะเคยเจอกันเวลาเขาขายประกัน เขาบอกให้ช่วยหน่อย เขาไม่ไหวแล้ว การรักษาโรคมะเร็งต้องใช้ยา ราคามันสูงมาก ทำอะไรได้ก็ทำ ขอแค่ให้มีที่ทำงาน ก็ถามว่าทำอะไรได้บ้าง เขาบอกทำได้หมด กับข้าว งานบ้านทำได้หมด ช่วงนั้นประกอบกับแม่บ้านผมกลับต่างประเทศไปเป็นปี ไม่กลับมาสักที มันจังหวะพอดี ก็เห็นใจเขาสงสารนะ ถ้าเขาป่วยเป็นมะเร็ง บ้านแตกแยก ก็รับมาเป็นแม่บ้าน คอยทำความสะอาด ซักผ้า ถูบ้าน”
“แรก ๆ ไม่มีพิรุธ ทำงานดี เขามีทักษะที่เขาเคยทำงานแบงก์มาด้วย มันก็ช่วยจัดการบางอย่างได้ ช่วงแรกก็สามารถไว้ใจได้ เฝ้าบ้านได้ เราก็ไม่เคยคิด เรามีเมตตา ช่วยเหลือผู้คนได้เราก็ช่วย”
ระหว่าง 3-4 ปีไม่มีอะไรหาย ?
“มีของหายบ้างเป็นบางอย่าง อย่างเสื้อผ้าที่ซื้อไว้แล้วเก็บ ยังไม่ได้ใส่ แต่ด้วยความที่เป็นผู้ชายไม่ได้คิดอะไรมาก เราก็ถามเขา เขาบอกเขาไม่เห็น ไม่ทราบ ช่วงนั้นมีญาติพี่น้องมาที่บ้านบ้าง บางทีญาติก็มาหยิบไปบ้างโดยไม่ได้บอก เราก็คิดว่าญาติเอาไป”
วันนึงมีตำรวจมาที่บ้าน เกิดอะไรขึ้น ?
“ผ่านไป 3-4 ปี วันนึงมีตำรวจบุกมาบ้าน ยื่นหมายจับโจรที่ปลอมตัวมาเป็นแม่บ้านผม เขาไปก่อคดีทางแบงก์เอาไว้ แล้วหลบหนีมาซุกซ่อน เราก็ตกใจ มันเกิดอะไรขึ้น ตำรวจเชิญไป ผมก็บอกว่าถ้างั้นคุณไปเคลียร์ตัวคุณเองแบบนี้เราไม่โอเคแล้ว ขอกุญแจบ้านคืนทั้งหมด ตอนนั้นเขาโดนจับไปเลย หลังจากนั้นผมมีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่ 7 วัน พอกลับมาปรากฏว่าเปิดประตูห้องไปเซฟโดนงัด เปิดออกหมดเลย โห ตอนนั้นใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เพราะผมซื้อทองเอาไว้ เราเก็บหอมรอมริบ เราทำมาหากินสุจริต เผื่อไว้ยามแก่เฒ่า พ่อแม่เจ็บไข้ได้ป่วยตรงไหนเราจะได้ใช้ตรงนี้ในยามฉุกเฉิน ผมซื้อตอนนั้นมาขาดทุน ซื้อ 2.6 หมื่น 2.7 หมื่น คิดว่าถ้าราคาขึ้นมาเท่าทุนจะขายเอาทุนคืนจะได้ไม่ขาดทุนเยอะ เก็บไว้เป็นสิบปี"
เซฟใช้วิธีการงัดหรือรู้รหัส ?
“งัดเลย วันที่เขาขโมยของแล้วหนีไป ผมก็ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตามจับที่บ้านพ่อเขาที่เป็นอาจารย์เก่า อาจารย์เกษียณอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ"
ของที่อยู่ในตู้เซฟ มีกี่บาท ?
“ทอง 50 บาท 4 แท่ง ถ้าเทียบราคาตอนนี้ บาทละ 3.2 หมื่นก็คูณเข้าไป ไหนจะแหวนทองที่เป็นแหวนวงแรก ราคาไม่สูง แต่มีมูลค่าทางจิตใจ สลักชื่อผม VIT มีเพชรตรงตัว I วงนึงญาติผู้ใหญ่ให้ตอนเราประสบความสำเร็จ เราก็อยากเก็บ ผมตามไปเจอที่บ้านของเขา มีกุญแจสำรองที่เขาขโมยผมไป แล้วตำรวจค้นเจอใบที่เอาไปจำนำ แหวนที่เอาไปจำนำ ดันจำนำร้านไม่มีชื่อ ไม่มีเบอร์โทร ไม่สามารถตามได้ อีกใบนึงเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่เขาเอาไปจำนำ อันนั้นยังพอมีชื่อ ตามมาได้บ้าง แต่อย่างอื่นตามไม่ได้เลย”
ตอนนั้นเป็นยังไง ?
"เครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมเกิดซ้ำกับเราอีก เจอเหตุการณ์โดนโกงมาหนึ่งรอบ นี่โดนอีก ไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้ คนที่ถูกกระทำ อยากให้เข้าใจความรู้สึก คุณมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ผมเดือดร้อน มันเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ผมจะเอามาดูแลตัวผม ดูแลพ่อแม่ยามแก่เฒ่า แต่คุณมาขโมยไปหมด แล้วคุณคิดว่าคุณจะไปเสวยสุขเหรอ ทำไมไม่ทำมาหากินสุจริต ผมยังมีความรู้สึกว่าอยากให้บ้านคุณ ครอบครัวคุณ โดนปล้นแบบผมบ้าง คุณจะรู้สึกยังไง คนออกข้อกฎหมายอยากให้โดนบ้าง อยากให้เข้าใจหัวอกคนที่ถูกกระทำว่ามันเจ็บปวดรวดร้าวขนาดไหน กับสิ่งที่ถูกกระทำมา"
ที่พูดถึงอยู่ผ่านมากี่ปีแล้ว ?
“3 ปีแล้ว มูลค่ารวมทั้งหมด ประมาณ 6 ล้าน แต่ถ้าตีราคาทอง ณ ปัจจุบัน ล่อไป 7 ล้าน ทั้งหมดเกือบ 10 ล้าน”
เราได้รับความเป็นธรรมแต่ไม่เพียงพอ เงินหามาทั้งชีวิตเกือบ 10 ล้าน คนร้ายตัดสินติดคุก 2 ปี ?
“ใช่ แล้วคดีก่อนหน้านั้น คดีฉ้อโกงอีก 4 ปี กลายเป็น 6 ปีแต่ติดจริงแค่ 2 ปี”
เคยคิดถึงขั้นจะทำร้ายตัวเอง ?
“ครั้งแรกโดนโกงเคยคิด แต่ครั้งนี้เราเจ็บซ้ำน้ำใจมาก เหมือนโดนกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำไมต้องเป็นเรา ผมอยากให้คนร้ายโดนปล้นโดนเหมือนที่ผมรู้สึก ให้ครอบครัวคุณโดนเหมือนผมโดน จะได้เข้าใจความรู้สึกว่าคนถูกกระทำ คนไม่รู้เรื่อง เขาเจ็บปวดแค่ไหน มันสาหัสแค่ไหน เดือดร้อนแค่ไหนอย่างไร”
ตอนนี้คนร้ายสู้กลับ ตอนนี้ออกมาจากคุกแล้ว ?
“เขาหายเงียบไปเลย ไม่ติดต่อใด ๆ ทั้งสิ้น หายสาบสูญไปเลย ผมไม่รู้จะไปสืบหายังไง ไม่รู้เขาไปซ่อนตัวที่ไหนยังไง ยังหาไม่เจอ วันที่เขาออกมา เผอิญทำงานอยู่ ไม่รู้จะไปตามยังไง ถ้าออกมาแล้ว ผมไม่รู้ในคุกได้อบรมขัดเกลา หรือทำให้คุณรู้สึกสำนึกบ้างแล้วหรือยัง ถ้าสำนึกแล้ว คุณเองควรทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้กลายเป็นเรื่องถูกต้อง เงินทุกบาทเป็นของผม ผมยังไม่ได้คืนแม้แต่สลึงเดียว เพราะฉะนั้นได้โปรดเถอะ แม้แต่พ่อแม่คุณ ครอบครัวคุณดูอยู่ ขอร้องล่ะ ผมเดือดร้อนจริง ๆ ในสิ่งที่คุณทำ อย่ามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ผมหวังว่าสิ่งที่คุณได้โอกาสจากสังคมแล้ว ควรกลับเนื้อกลับตัวซะใหม่ ผมยังรอให้คุณติดต่อ และรอให้คุณเอาของมามอบให้ผมอยู่ แนะนำว่าถ้าเกิดคนนี้ไปก่อคดีอีก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมนะครับ ตรวจสอบกันให้ดี เช็กก่อนว่าเคยมีประวัติหรือเปล่า สิ่งสำคัญต้องให้กำลังใจตัวเราเอง ต้องอยู่เพื่อสู้ต่อไป หวังว่าเสียงเล็ก ๆ หนึ่งเสียงจากผู้ถูกกระทำ จะไปถึงผู้พิพากษา ตำรวจ กรมบังคับคดี กฎหมายบางอย่างได้โปรดเถอะ ถ้าแก้ได้ก็แก้ อย่าไปเอื้อให้คนที่ไม่ดีเลย”
ที่มา : รายการคุยแซ่บShow