
ก่อนหน้านี้มีข่าวยุติความสัมพันธ์ในฐานะ สามี-ภรรยา ตอนนี้สถานะคืออะไร ?
"เป็นพ่อและแม่ของลูก ข่าวที่ออกมาสักพักต้องยอมรับมันคือเรื่องจริงครับ จริงๆ ข่าวออกพฤษภาคม แต่เราเริ่มที่จะคุยกันจริงจังมากขึ้น แล้วสรุปของเราตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว"
วันที่ทั้งคู่ตัดสินใจจะให้อิสระกันและกัน วันนั้นอารมณ์มันเป็นยังไง ทะเลาะมั้ย ?
"พี่ออกตัวนิดนึง การที่คุยวันนี้มันอาจจะมีผลกระทบถึงบุคคลอื่นที่ไม่ได้มานั่งคุยกับเราในวันนี้ อันนี้เป็นเหตุผลในทางของพี่โอ๊ตฝ่ายเดียว ซึ่งพี่คุยกับทางคุณจีน่าแล้วว่า โอเควันนี้เรามาออกรายการ เราจะคุยประมาณนี้ ได้แค่ไหนพี่ตอบแค่นั้นจะตอบเท่าที่จะตอบได้ บรรยากาศในการคุยวันนั้นเป็นการคุยปกติธรรมดา ใช้สติในการคุยกัน คุยแบบเป็นเพื่อนไม่ได้ทะเลาะกัน ในการยุติความสัมพันธ์คิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตัวเราเองและตัวลูกด้วย"
เหตุผลหลักในการคืนอิสระให้กับอีกฝ่ายคือ ?
"จริงๆ มันไม่ได้มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูกในการที่เราจะมองเป้าหมายในชีวิตของเรา ต่างคนต่างมีทางของตัวเอง คิดว่าตรงนี้เป้าของเรายังต่างกันอยู่ เขาก็ยังมีเวของเขาอยู่ เราก็มีเวของเรา เวของเราอาจไม่ได้หวือหวาเหมือนกับที่เขาตั้งเป้าในทางเดินของเขาไว้ มันเลยสวนทางกันในการดำเนินชีวิต เลิกกันแบบนี้เลยง่ายกว่า"
เป็นเรื่องความห่างของอายุด้วยมั้ย ?
"จะบอกว่าไม่สำคัญเลยไม่ได้นะ มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในช่วงที่เราอายุวัยเดียวกับเขา เราก็คิดเหมือนกับเขานี่แหละ เราอยากไปให้สุดในเส้นทางของเรา มันห้ามไม่ได้ พอมันมาถึงอายุที่มากขึ้น 50 กว่า มันรู้สึกว่าทางเรามันลงเขาแล้ว มันเริ่มหาจุดสงบแล้ว มีความสุขแบบนิ่งๆ เลยสวนทางกัน ทางขึ้นกับทางลง แต่ว่าสิ่งนี้ไม่มีใครผิดใครถูก"
ปีนี้พี่โอ๊ต 52 ถ้าเขาอายุน้อยกว่า 21 ปีก็คือ 30 ต้นๆ เท่านั้นเอง ?
"ใช่ครับ"
วันนั้นของเดือนมีนาคมปีที่แล้ว บทสรุปคือ ?
"ลดสถานะของการเป็นสามีภรรยา แล้วมาเป็นพ่อกับแม่ของลูก แต่ก็ยังอยู่บ้านเดียวกัน เราแยกห้องนอนกัน คือต้องบอกว่า เราแยกห้องนอนกันมานานแล้วด้วย พอนอนด้วยกันเขาไม่สบายตัว ที่นอนมันพอดีเกินไปก็แยกไปอยู่อีกห้องก่อนหน้านั้นนานแล้ว แล้วที่มาคุยกันก็คือเรื่องการแยกห้องนอนในสถานะที่มันเปลี่ยนไป เรื่องใบหย่าไม่ต้อง ไม่ได้จดทะเบียนสมรสตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แค่จัดงานเฉยๆ ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ด้วยเราทำธุรกิจด้วย กลัวผลกระทบที่จะตามมาในอนาคต คนที่ทำธุรกิจมีความไม่แน่ไม่นอน กลัวมีผลในภายภาคหลังเลยไม่จดทะเบียนสมรสกัน"
อยู่บ้านเดียวกัน ต้องปรับตัวยังไง ?
"เขาคือเพื่อนแล้วเป็นแม่ของลูก ยังมีความเอื้ออาทร มีความห่วงใยในฐานะเพื่อนแล้วก็แม่ของลูกด้วย ฉะนั้นเวลาทำอะไรไปไม่ได้แค่เฉพาะความรู้สึกของเราคนเดียว ต้องแคร์ความรู้สึกของลูกด้วย อีก 2 คนนั่งมองอยู่ เราใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน พื้นที่ส่วนตัวแยกห้องนอน ยังไปไหนทำกิจกรรมทุกอย่างปกติเหมือนเดิม ลูกสองคนนอนกับพ่อทุกคืน พ่อติดลูกด้วย ติดกล่อมลูก ติดนอน เขาจะนอนตรงแขนพ่อ"
"โอเลิฟมีพูดบ้าง แบบอยากให้แม่นอนตรงนี้ให้พ่อนอนตรงนี้ แล้วลาฟกับเลิฟก็นอนตรงนี้ อันนี้มันเป็นคำที่บางทีก็สะเทือนใจเรา บางทีเลิฟจับมือพ่อกับแม่มาแล้วบอกว่า เลิฟอยากเห็นพ่อกับแม่รักกัน แล้วเลิฟจะมีความสุข เราก็น้ำตาไหล มองหน้ากันกับคุณจีน่า ซึ่งมันก็สะเทือนใจ เราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ข้างใน แต่ในหน้าที่ของการเป็นพ่อเป็นแม่ เราพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เมื่อถึงวันนึงที่มันสมควร หรือดูวุฒิภาวะที่มันไม่กระทบกับเขามาก เราจะพูดความจริงกับเขา จะค่อยๆ บอก ตอนนี้กำลังดูเขาอยู่ว่ามันเหมาะสมแค่ไหน สัก 10 ขวบถึงค่อยบอก ตอนนี้พยายามสร้างบรรยากาศในครอบครัวให้มันดูปกติที่สุด"
พอมันเป็นแบบนี้สบายใจกว่า ?
"สบายใจกว่า หมายถึงไม่ต้องคาดหวังในเรื่องส่วนตัวของเขา ในบางสิ่งบางอย่างที่เราคาดหวังแล้วไม่เป็นอย่างที่คิด เรื่องพวกนี้ตัดทิ้งไปได้เลย เขาสามารถใช้ชีวิตเขาได้เต็มที่ในส่วนของเขา เราก็สามารถใช้ชีวิตในส่วนของเราได้ แล้วมีหน้าที่ร่วมกันคือรับผิดชอบในเรื่องของลูก เราปล่อยชีวิตให้เขาอิสระเลย โฟกัสของผมตอนนี้หลักๆ เลย คือความรู้สึกของลูก แต่ก่อนยังมีความรู้สึกของตัวเองบ้างนะ อยากมีโน่นอยากไปนี่ อยากอะไรต่ออะไร ตอนนี้ไม่มีเลย ความรู้สึกของตัวเองคือลูกอย่างเดียวเป็นที่ตั้งเลย"
ไปส่งลูกๆ ที่โรงเรียนทำไมต้องร้องไห้ ?
"คิดถึง แต่ก่อนเราเป็นผู้ชายใจแข็งไม่ค่อยร้องไห้นะกับสถานการณ์ต่างๆ แต่พอมาเจอเรื่องลูกมันเซนซิทีฟ แค่อ่านข่าวเด็กคนอื่นแล้วคิดถึงลูกก็ร้องไห้"
ณ วันนี้โสด ?
"ครับผม จริงๆ ไม่เคยเข็ดนะ ไม่เคยเข็ดเรื่องความรักเลยนะ อยากมีความรักตลอดเวลา ความรักเป็นสิ่งที่ดีสวยงาม อยากมีความรักแบบชีวิตคู่ลุงป้า มีความรักแบบคนที่เป็นเพื่อนกัน อยากมีมาก แต่มีไม่ได้ ติดเรื่องลูกยังเล็กอยู่ อย่าคิดว่ามีแฟนเลยนะ ตอนนี้คนคุยยังไม่มีเลย เราคิดว่าเรายังไม่พร้อม หน้าตาไม่เกี่ยวแล้ว ขอคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจ อยู่ในทิศทางเดียวกัน อายุเยอะหน่อยก็ดี สัก 35 ขึ้น เรื่องรีเทิร์นในอนาคตพูดไม่ได้เลย แต่ในปัจจุบันคิดว่าอยู่แบบนี้สบายใจกว่า"
ที่มา : รายการคุยแซ่บShow