อาลัย ป้าเขียด นักแสดงรุ่นใหญ่ เสียชีวิตแล้วอย่างสงบที่บ้านพักในปราจีนบุรี

7 มีนาคม 2566 ทางด้าน ร้อยเวร สภ.ศรีมหาโพธิได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพัก จึงลงทำการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตชื่อนางนภาพร หงสกุล (ดาราอาวุโส) เสียชีวิตอยู่บริเวณเตียงนอน ในบ้านเลขที่ 141/28 พื้นที่หมู่ 10 ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ ปราจีนบุรี คาดว่าจะเสียชีวิตด้วยโรคชรา จึงให้ทางอาสามูลนิธินำร่างส่งโรงพยาบาลศรีมหาโพธิเพื่อทำการชันสูตรก่อนที่จะให้ร่างกับญาติไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา

จากการสอบถามนายสมคิด หงสกุล อายุ 58 ปี บุตรชายได้เปิดเผยว่า

ช่วงก่อนหน้านี้ คุณแม่ ได้มีอาการป่วยและไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชจังหวัดนครราชสีมา โดยมีอาการเป็นมะเร็งรังไข่และมีเนื้องอกในช่องท้อง แล้วถ้าทำการรักษาจนอาการดีขึ้นและมาพักรักษาตัวที่บ้านพักในจังหวัดปราจีนบุรี จากนั้นเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทางคุณแม่ได้มีอาการทรุดลง เริ่มทานข้าวไม่ได้ก่อนที่จะเสียชีวิตในช่วงสายของวันนี้

โดยทาง "พี่ขาว" หรือ "นายสมคิด" จะนำร่างของป้าเขียด นภาพร หงสกุล ตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดคลองรั้ง เป็นเวลา 5 วัน อยากจะฝากถึงแฟนละครของคุณแม่ ความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับการเล่นละครของแม่ไว้ในใจของแฟนละครของแม่ด้วย

สำหรับ ป้าเขียด นภาพร หงสกุล เป็นหนึ่งในนักแสดงอาวุโสมากด้วยฝีมือ มีผลงานการแสดงอย่างมากมาย โดยจุดเริ่มต้นของการแสดง "ป้าเขียด-นภาพร" มีชื่อเล่นว่า เขียด หรือที่เรียกกันว่า "ป้าเขียด" ในวัย 76 ปี เกิดในครอบครัวของนักแสดงโดยแท้จริง ทั้งมีคุณพ่อทองชวน-คุณแม่เจริญใจ หงสกุล เป็นนักแสดงละครเวทีโบราณ เป็นละครร้องหรือที่เรียกว่าละครเร่

ป้าเขียด เริ่มเล่นละครเร่มาตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ กับละครเร่เรื่องแรกคือ อาญารัก ต่อมาเมื่อโตขึ้น ป้าเขียดก็ได้รับบทนางเอกของคณะละครเร่ และได้เปลี่ยนชื่อจาก ชรินทร์ มาเป็น "นภาพร" ตามชื่อนางเอกที่ตนได้รับบทในตอนนั้น

ป้าเขียด นภาพร กับการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัว เมื่อถึงจุดเปลี่ยน วงการโทรทัศน์ เริ่มมีบทบาทในสังคมไทยมากขึ้น ส่งผลให้ละครเร่ก็ได้รับความนิยมน้อยลงจนหายไปในที่สุด ป้าเขียด จึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตน เพราะละครเร่นั้นต้องเดินทางออกไปแสดงตามต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ ทำให้ป้าเขียด ไม่ได้กลับกรุงเทพฯ ในช่วงที่ผ่านมาเลย

ในช่วงชีวิตของการอยู่ในกรุงเทพฯ ของป้าเขียด ก็ได้ใช้วิชาต่างๆ ที่สั่งสมประสบการณ์มาตั้งแต่ยังเด็ก อยู่ตามวงดนตรี จนกระทั่งมาอยู่กับวง ป๋าเหน่ เสน่ห์ โกมารชุน ที่ในสมัยนั้นเป็นทั้งผู้กำกับหนัง และกำลังจะสร้างวงดนตรี จึงได้ชักชวนให้ป้าเขียดเข้ามาเป็นนักร้องประจำวง รวมถึงทั้งเอาป้าเขียดไปเล่นหนังบ้างเป็นครั้งคราว

จนกระทั่ง "ป๋าเหน่" ได้รับเล่นละครทางช่อง 5 เรื่อง คุณหญิงพวงแข ประจวบเหมาะกันนักแสดง ชูศรี มีสมมนต์ ไม่สามารถเล่นต่อได้ แม้ว่าจะเป็นแค่บทคนใช้แต่เป็นตัวละครสำคัญ ป๋าเหน่ จึงแนะนำให้ ป้าเขียด รู้จักกับ เทิ่ง สติเฟื่อง ผู้กำกับของละครเรื่องนี้ และเมื่อเทิ่งได้เห็น ก็ตกลงรับเล่นได้ในทันที เพราะมั่นใจในฝีมือ และประสบการณ์การแสดงของป้าเขียด ถือเป็นการเข้าวงการโทรทัศน์ของป้าเขียดอย่างสมบูรณ์

หลังจากประเดิมฝีไม้ลายมือละครเรื่องแรกมาแล้วนั้น ป้าเขียด ก็ได้เล่นในละครของเทิ่งทุกเรื่อง ได้รับบทเป็นสาวใช้เป็นเพื่อนนางเอกบ้าง แต่ส่วนมากจะเล่นเป็นคนใช้ของนางเอก เป็นการตามความฝันของป้าเขียด ที่มีใจรักในการแสดงตั้งแต่ยังจำความได้

แม้ว่าจะแสดงละครมาหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ทำให้ป้าเขียดได้แจ้งเกิดจริงๆ ก็มาจากบทแม่นม ในเรื่อง ทอฝันกับมาวิน ที่ตัวพระเอกคือ ฟลุค เกริกพล โดยป้าเขียดนั้นมักจะรับเล่นละครจากทาง เอ็กแซ็กท์ประจำจนได้ฉายาว่า แม่นมประจำเอ็กแซ็กท์

ป้าเขียด ก็กลับมาโด่งดังอีกครั้งกับละครเรื่อง ประชาชนชาวแฟลต กับบทของ อีตุ่ม ชาวบ้านธรรมดาซึ่งอยู่แฟลต กับสามีขับแท็กซี่ บทที่มีความตลก ปนกับการแสดงที่ดูเป็นธรรมชาติ ทำให้คนส่วนใหญ่ต่างก็จะชอบตัวละครตัวนี้

ชีวิตส่วนตัวของ ป้าเขียด นภาพร ความรักครั้งแรกของป้าเขียด เริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก จนทำให้ตนต้องกลับมาแสดงละครที่บ้าน พร้อมกับอุ้มลูกติดมาตั้งแต่สมัยเล่นละครเร่ และได้พบรักกับ คุณวิโรจน์ รตาภรณ์ ที่เปลี่ยนชีวิตของป้าให้มีความสุขที่สุดในชีวิต

ตัวของป้าเขียดนั้นมีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน และความดัน ล่าสุดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ทำการรักษาโรคมะเร็งรังไข่และมีการผ่าตัดเนื้องอกบริเวณช่องท้อง จนเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาป้าเขียดได้จากโลกนี้ไปด้วยอาการสงบ

ถ้าพูดถึงนักแสดงอาวุโส คนในยุค 70-80's แทบไม่มีใครไม่รู้จัก “ป้าเขียด นภาพร หงสกุล” ที่เคยฝากผลงานในวงการบันเทิง ทั้งงานละครและงานภาพยนตร์มาแล้วนับร้อยเรื่อง แถมผลงานที่ทำให้ป้าเขียดมีชื่อเสียงโด่งดัง คือ “ประชาชนชาวแฟลต” และผลงานอื่นๆ อีกมากมาย

ในช่วงหลัง "ป้าเขียด" ต้องประสบกับวิกฤติล้มป่วยด้วยโรคประจำตัวอย่างหนัก จนเล่นละครไม่ได้มาหลายปี ส่งผลให้ครอบครัวที่เคยมีรายได้กลับต้องขาดรายได้ แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดลูกชายคนเดียวที่ดูแลป้าเขียดอยู่ต้องตกงานในช่วงสถานการณ์โควิด -19 ทำให้ครอบครัวที่เคยมีรายได้กลับไม่มีรายได้เลย

ในช่วงนั้น "หนุ่ม คงกระพัน" เดินทางไปเยี่ยมอาการของป้าเขียด ซึ่งตอนนี้ ป้าเขียด ได้เปิดร้านขายของชำอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี ป้าเขียด เคยเผยไว้ว่า ตนเองย้ายมาอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรีได้ประมาณ 14-15 ปีแล้ว โดยสาเหตุที่ย้ายมา เนื่องจาก ขณะนั้นลูกชายตกงานอยู่ที่กรุงเทพสักพักหนึ่ง แล้วมาได้งานที่จังหวัดปราจีนบุรี จึงไม่อยากทิ้งแม่ไว้ที่กรุงเทพ เนื่องจาก ป้าเขียดมีโรคประจำตัวเยอะ จึงพาคุณแม่มาอยู่ที่ปราจีนบุรีด้วย

ซึ่งแรกๆ ที่อยู่ปราจีนบุรี ป้าเขียด ก็ยังเล่นละครอยู่ประมาณ 2-3 ปี และเริ่มหยุดงานในวงการบันเทิง เนื่องจาก ผู้จัดกลัวการเดินทางจะลำบาก โดยเรื่องสุดท้ายที่เล่นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ยอมรับคิดถึงบรรยากาศการทำงานละคร รวมถึงเพื่อนๆ ในวงการบันเทิง

กระทั่ง ป้าเขียด เกิดสุขภาพทรุดลง เนื่องจาก เกิดจากโรคเบาหวาน และ ความดัน ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เคยเป็นมานานแล้ว แต่อยู่ดีๆเกิดเป็นลมหน้ามืด จนห้องเข้าICU ไม่รู้สึกตัว 15 วัน โดยอาการเริ่มป่วยตั้งแต่ปลายปี 2562 แต่มาเริ่มหนักช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ต้องเข้าห้อง ICU

สำหรับอาการป่วยตอนนี้ดีขึ้นแล้ว สามารถเดินเหินได้สบาย แต่ยังไม่สามารถเดินไกลๆได้ เนื่องจาก หัวเข่าไม่มีแรงและต้องใช้ไม้เท้าช่วยอยู่ ซึ่งการรักษาตอนนี้ต้องทานยาและใช้สิทธิ์บัตรทองสวัสดิการของรัฐ แต่ก็มียาบางตัวที่ต้องออกเอง อย่างล่าสุดที่เข้าโรงพยาบาล ยาเกี่ยวกับเรื่องการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะที่ต้องออกเอง เข็มละ 6,000 บาท และต้องฉีด 4 เข็ม

ทางด้าน ลูกชาย เปิดใจเล่าให้ฟังว่า ตนเองต้องมาเจอวิกฤติตกงาน เนื่องจาก นายญี่ปุ่นที่เคยเป็นเจ้านายกลับประเทศ จึงทำให้ลูกชายต้องขาดรายได้ไปอีกทาง ยอมรับว่ายังติดค้างค่าน้ำ และค่าไฟเขาอยู่ เพราะว่า เงินที่ได้จากการขายของเป็นกำไรที่ต้องไปซื้อของหมุนเข้าร้าน ต้องมากกั๊กไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในบ้านและการดูแลซื้ออุปกรณ์ให้คุณแม่ใช้ จึงทำให้ของขายออกแต่ไม่มีตังค์ซื้อของเข้าร้าน

บ้านที่ จังหวัดปราจีนบุรี แม้ว่าจะเป็นบ้านลูกชายที่ซื้อเองก็จริงแต่ก็ยังผ่อนอยู่ และตอนนี้ตกงานจากที่นายญี่ปุ่นกลับประเทศ จึงหันมาขับรถส่งอาหาร ซึ่งรายได้วันละ 300 กว่าบาท จากนั้นหักค่าน้ำมันวันละร้อย จึงเหลือวันละ 200 บาท โดยเฉลี่ยรายเดือนต่อเดือนได้วันละ 6000 กว่าบาท

โดยในปี 2565 “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ได้เผยภาพป้าเขียด ที่ป่วยอาการโรคเส้นเลือดสมองส่วนหน้าตีบทำให้ไม่สามารถพูดได้แล้ว ทำงานไม่ได้ ไม่มีแม้เงินซื้อแพมเพิส ซ้ำยังตรวจพบก้อนเนื้อในรังไข่ หลังจากที่ล้มป่วยจนไม่สามารถเล่นละครได้อีก มีรายได้จากการขายของชำที่บ้านในจังหวัดปราจีนบุรี เพียงวันละ 100-200 บาท และหลังจากแฟนๆ ละครทราบเรื่องก็ส่งกำลังใจและช่วยเหลือ พร้อมภาวนาให้อาการป่วยดีขึ้นโดยเร็ว

กระทั่งล่าสุดในวันนี้ (7 มี.ค.66) มีรายงานข่าวเศร้า ช้อกไปทั้งวงการ โดยทางเพจ สื่อปราจีนบุรี ได้แจ้งข่าวเศร้า

 

“ป้าเขียด” จากไปอย่างสงบ ฝากไว้ซึ่งผลงานที่จะเป็นที่จดจำของแฟนๆ ตลอดไป

ขอขอบคุณคลิปแห่งความทรงจำ: จากยูทูบ หนุ่มคงกระพัน official

ย้อนอ่านโพสต์สุดซึ้ง ประทับใจไปทั้งโซเชียล

"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ได้โพสต์ภาพของ "ป้าเขียด" เมื่อ 22 ตุลาคม ปี 2022 พร้อมทั้งเขียนข้อความเล่าถึงชีวิตป้าเขียดไว้ว่า “สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขมาหลาย 10 ปี แต่วันนี้ ป้าคนนี้มีความทุกข์ใครช่วยป้าได้”

"สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมอยากพูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในวงการบันเทิงมา 40 กว่าปี เธอสร้างรอยยิ้ม สร้างความสนุกสนานในทุกบทบาทที่เธอได้รับเล่น ผมพูดถึง ป้าเขียด หรือ ป้า นภาพร หงสกุล อายุ 76 ปี ป้าป่วยเมื่อต้นปี 2562 นอนห้อง ICU อยู่ 14 วัน ติดเชื้อในกระแสเลือด จากนั้นอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เกิดอาการหน้ามืดแล้วล้ม คุณหมอตรวจพบว่าเส้นเลือดสมองส่วนหน้าตีบ ทำให้ตอนนี้ป้าเขียดไม่สามารถพูดได้ แต่ฟังรู้เรื่อง

ป้าเขียด อาศัยอยู่กับลูกชาย อายุ 57 ปี ที่คอยดูแลป้าเขียด ลูกชายบอกว่า ตอนนี้เงินที่ได้จากการถ่ายหนังถ่ายละครที่แม่เก็บไว้หมดแล้ว ลูกชายเปิดร้านขายของชำเล็กๆ น้อยๆ เพื่อประทังชีพ ทุกวันนี้ลำบากมากแม้แต่เงินจะซื้อแพมเพิร์สมาให้แม่ยังไม่มีเลย ทุกวันนี้รายได้จากการขายของวันละ 100-200 บาท บางวันก็ไม่ได้เลย สงสารแม่ที่พูดไม่ได้ เขียนก็ไม่ได้ เลยไม่รู้ว่าต้องการอะไร

ตอนแรกที่ผมเข้าไปหาป้าเขียดจำผมไม่ได้ แต่พอผมเปิดแมสก์ออก ป้าเขียดยิ้มและจำได้ทันทีอยากจะพูดอยากจะบอกว่าจำได้แต่ป้าพูดไม่ได้แล้ว ชีวิตที่เคยสร้างความสุขให้ใครต่อหลายคน วันนี้ป้าเขียดต้องมีสภาพเป็นแบบนี้ แล้วยังไม่รู้เลยว่าวันนี้หมอเอาก้อนเนื้อในรังไข่ไปตรวจไม่รู้จะเป็นมะเร็งอีกรึเปล่า ขอให้ป้าเขียดอย่าเป็นอะไรมากไปกว่านี้เลยนะครับ ขอให้ป้าเขียดกลับมาพูดได้เหมือนเดิมและกลับมาเล่นละครให้พวกเราชมอีกนะป้าเขียด

ช่วยเป็นกำลังใจให้ป้าเขียดด้วยนะครับเพื่อนๆ ผมช่วยป้าเขียด 20,000 บาท ถ้าเพื่อนๆ หรือคนในวงการบันเทิงอยากช่วยเหลือก็โอนเข้า บัญชีลูกชายได้เลยครับ..ชื่อ บัญชี นาย สมคิด หงสกุล ธนาคาร กรุงไทย เลขที่ บัญชี 9 8 3 3 0 1 3 2 3 6 ออมทรัพย์

การช่วยเหลือครั้งนี้สำคัญที่สุดครับ ป้าเขียดจะกลับมาพูดได้หรือไม่ได้อยู่ที่การรักษาอย่างต่อเนื่อง เงินเป็นสิ่งที่สำคัญ ป้าต้องมีเงินเป็นค่ารักษา ป้าต้องมีกำลังใจจากพวกเราครับ กราบขอบพระคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจครับ..”

อีกความคืบหน้า โดยเพจดัง ดาราภาพยนตร์ ส่งโพสต์ รำลึก ป้าเขียด นภาพร ใจความระบุไว้ว่า

#เรื่องเศร้าคนบันเทิง #สิ้นศิลปินอาวุโส #ป้าเขียด #นภาพรหงสกุล นักแสดงอาวุโสมากฝีมือ #เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ77 ปี

ทีมข่าวดาราภาพยนตร์ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนักแสดงอาวุโส ป้าเขียด - นภาพร หงสกุล ที่เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อช่วงเช้า 10:30 น. ของวันนี้ (7 มีนาคม 2566)

#กำหนดสวดพระอภิธรรม #วัดสุทธิธรรม #วัดคลองรั้ง #จังหวัดปราจีนบุรี

วันพุธที่ 8 มีนาคม 2566 เวลา 16: 00 น.รดน้ำศพแล้วสวดอภิธรรม 19:00 น.

วันที่ 9 - 12 สวดอภิธรรม 19:00 น.

#พิธีฌาปนกิจ วันจันทร์ที่13 มีนาคม เวลา 16:00 น. ณ เมรุวัดสุทธิธรรม วัดคลองรั้ง จังหวัดปราจีนบุรี

โดยทีมข่าวดาราภาพยนตร์ได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวเศร้าและได้คุยกับคุณสมคิด หงสกุล ลูกชายคนเดียวป้าเขียด ซึ่งได้เล่าให้ฟังว่า

“คุณแม่ท่านหลับไปเฉย ๆ เมื่อเวลา 10:30 น. ที่ผ่านมาที่บ้านพัก หมู่ที่ 10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

ซึ่งก่อนหน้านี้คุณแม่เข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้องอกที่บริเวณหน้าท้องออก ซึ่งเป็นมะเร็งมดลูกและอาการโดยรวมหลังแพทย์ผ่าตัดแล้วอาการค่อนข้างดี ไม่มีการติดเชื้อหลังผ่าตัด แต่ยังต้องพักฟื้นเพราะมีลิ่มเลือดอุดตันอยู่ ซึ่งแพทย์ให้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน โดยยังต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด แต่ในที่สุดก็ได้จากไปอย่างสงบ

ผมยังจำตอนสมัยแม่เป็นนักแสดงที่ยังรับงานแสดงได้อยู่ ตอนนั้นคุณแม่แข็งแรงดี ร่าเริงอารมณ์ดี ยิ้มง่าย เริ่มจากที่คุณแม่ป่วยด้วยอาการโรคเส้นเลือดสมองส่วนหน้าตีบ ทำให้ไม่สามารถพูดได้ ทำให้ไม่ได้รับงานแสดง

แม่ก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่กับผมที่ปราจีนบุรี เปิดร้านขายของชำและเพาะเห็ดขายเพื่อประทังชีวิต แม่ไม่สบายครั้งแรกปี 2562 เข้าโรงพยาบาลครั้งแรก ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ตอนนั้นอาการหนักมาก นอนห้อง ICU ถึง 14 วัน โดยไม่รู้สึกตัวเลย หลังจากนั้นก็ฟื้นมาถึง 2562-2563 และมาถึงกลางปี 2564 มีอาการเส้นเลือดสมองตีบ ทำให้พูดไม่ได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รักษามาช่วงปี 2565 และปลายปี 2565 มาอาการหนักอีก ที่ต้องได้รับการผ่าตัดครั้งล่าสุดนี่ละครับ

ช่วงแม่ป่วย ชีวิตครอบครัวเราลำบากพอสมควร แต่จริง ๆ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนไม่มากนัก ร้านชำก็พอมีรายได้บ้าง ไว้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแพมเพอร์ของแม่ และค่าอาหารไม่มาก และได้รับความเมตตาจากทาง #มูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส ให้เงินช่วยเหลือเป็นเสมือนเบี้ยยังชีพรายปี มาอย่างต่อเนื่อง เงินส่วนมากก็หมดไปกับค่าเดินทางไปโรงพยาบาล และจำนวนเงินที่เป็นส่วนต่างจากสิทธิบัตรทอง ซึ่งตอนหลังได้ย้ายสิทธิบัตรทองจาก อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

เพราะแม่ไม่มีประกันชีวิต ไม่มีประกันสังคม ตอนแม่เข้าโรงพยาบาลผ่าตัด ก็มีรุ่นลูกรุ่นหลานในวงการใจบุญมาช่วยเหลือ คือ #พี่บิณฑ์บรรลือฤทธิ์ #พี่หนุ่มคงกะพัน ซึ่งผมต้องกราบขอบพระคุณพี่ ๆ ทั้งสองมาก ที่ได้มาเยี่ยมคุณแม่ และได้ให้ความช่วยเหลือในด้านค่าใช้จ่าย ถ้าไม่ทั้งพี่ทั้ง 2 ท่าน และแฟนคลับของคุณแม่ที่หลาย ๆ ท่านกรุณาโอนเงินมาช่วย ครอบครัวเราคงลำบากมากกว่านี้ ถ้าไม่ได้รับความเมตตาช่วยเหลือ ซึ่งคุณแม่ท่านน้ำตาไหลทุกครั้งที่ได้รับความเมตตาและเมื่อรับทราบว่ามีแฟนคลับส่งความห่วงใยและส่งกำลังใจกันมากมาย

วันนี้คุณแม่ท่านจากไปอย่างสงบแล้ว ผมในฐานะลูกชายก็ขอกราบขอบพระคุณทุกท่าน ในความเมตตาและความกรุณาที่มอบให้ ทั้งให้ความช่วยเหลือและให้กำลังใจคุณแม่และผมมาโดยตลอดขอกราบขอบพระคุณอีกครั้งครับ”

ท่านที่จะร่วมทำบุญในงานสวดอภิธรรมและพิธีฌาปนกิจ #ร่วมทำบุญได้ ที่ ชื่อบัญชี นาย สมคิด หงสกุล ธนาคาร กรุงไทย เลขที่บัญชี 9 8 3 3 0 1 3 2 3 6 ออมทรัพย์

#สื่อดีสังคมดีดาราภาพยนตร์ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยค่ะ

ย้อนไทม์ไลน์อาการป่วยของป้าเขียด นักแสดงอาวุโสคนดัง

10 ก.ค. 2563

ส่งกำลังใจ ป้าเขียด นภาพร ล้มป่วยติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และกระแสเลือด

นักแสดงอาวุโส ป้าเขียด นภาพร หงสกุล วัย 74 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ด้วยอาการชักเกร็งและหมดสติ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 5 วัน ได้กลับไปรักษาตัวอยู่ที่บ้าน 6 วัน ก็ต้องกลับเข้ารักษาตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาลเจ้าพระยา จ.ปราจีนบุรี 

คุณหมอตรวจพบว่า ป้าเขียด มีอาการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ และที่กระแสเลือด และส่งตัวมาที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์ ตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้นแต่ไม่มีแรงที่จะพยุงตัวเอง และมีอาการชาและเจ็บที่ขาข้างซ้าย ตอนนี้ยังพักรักษาตัวอยูที่โรงพยาบาลอย่างไม่มีกำหนด ขอส่งกำลังใจให้คุณป้าเขียดหายป่วยและกลับมาแข็งแรงไวๆ อีกครั้งนะคะ

31 มี.ค. 2565 
เผยอาการล่าสุด ป้าเขียด นภาพร ทรุดหนัก เข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง

หลังจาก ป้าเขียด นภาพร หงสกุล ถูกนำตัวส่ง รพ. และหมอตรวจพบมีอาการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะและที่กระแสเลือด ต้องพักรักษาตัวในห้องไอซียู จากนั้นอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่หมอจะตรวจพบเส้นเลือดในสมองส่วนหน้าตีบ ทำให้ไม่สามารถพูดได้ แต่ฟังรู้เรื่อง

ด้านลูกชายป้าเขียดเผยชีวิตลำบาก เงินที่ได้จากการถ่ายหนังถ่ายละครที่แม่เก็บไว้หมดแล้ว ตอนนี้เปิดร้านขายของชำเล็กๆ น้อยๆ เพื่อประทังชีพ ได้เงินวันละ 100-200 บาท บางวันก็ไม่ได้เลย ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนก็ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่

นักแสดงและพิธีกรนิสัยดี "หนุ่ม คงกระพัน" ก็ได้โพสต์อัปเดตอาการป่วยของ ป้าเขียด อีกครั้ง โดยบอกว่า 

"เรียนแจ้งเอฟซี ทุกท่านครับ ตามที่ช่องหนุ่มคงกระพัน OFFICIAL เคยทำคลิปเพื่อช่วยเหลือป้าเขียดเอาไว้เมื่อหลายเดือนก่อน หลายคนมีน้ำใจช่วยเหลือครอบครัวของป้าเขียดมาเยอะ

ตอนนี้ผมจะส่งข่าวว่าป้าเขียดอาการทรุดหนักเข้าโรงพยาบาลอีกแล้วครับ ทางครอบครัวก็ยังคงเดือดร้อน ไม่ได้ต้องการมาเรี่ยไรนะครับ และทราบว่าทุกคนก็อยู่ในภาวะลำบากเช่นเดียวกัน

แต่ถ้าใครมีน้ำใจอยากจะช่วยเหลือครอบครัวของป้าเขียดก็ตามนี้เลยครับนี่คือเบอร์บัญชีของลูกชายป้าเขียดครับ 9833013236 ธ.กรุงไทย สมคิด หงสกุล ครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับน้ำใจครับ"

ทีมข่าวขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวป้าเขียด มา ณ โอกาสนี้ด้วย 

ขอบคุณที่มา: ดาราภาพยนตร์