svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

เปิดใจอีกครั้ง "อาทิตย์ ริว" กับวิกฤตใหญ่ในชีวิต

10 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หลังเปิดภาพในปัจจุบันของอดีตพระเอกยุค 90s “อาทิตย์ ริว” ก็เป็นที่ฮือฮาและกลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการบันเทิง ล่าสุดเจ้าตัวออกมาสัมภาษณ์แบบหมดเปลือกอีกครั้ง หลังอำลาวงการไปนานถึง 17 ปี

ตั้งแต่ข่าวออกไป ตอนนี้กระแสเป็นยังไงบ้าง ?

"ไม่ได้ตามเลยครับ ไม่เคยดูโซเชียลอยู่แล้ว ไม่เคยติดตามอะไรที่เกี่ยวกับวงการบันเทิงมาก่อนเลย ตั้งแต่ออกไปแล้วเกือบ 20 ปี  ตอนแรกที่ตัดสินใจให้คุณบอย วันบันเทิงมาสัมภาษณ์ ผมคิดหนักนะว่าจะเปิดตัวยังไง จะให้คนอื่นเขาเห็นในสิ่งที่ริวในฐานะนักแสดงเก่า เป็นสภาพแบบไหน ก็คิดว่าผมจะเปิดดีมั้ย"

มีบางกระแสที่ย้อนกลับไปด่าอดีตต้นสังกัด ?

“เรื่องนี้ผมต้องกราบขออภัยเฮียด้วยนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาอะไร ผมรักเฮียเหมือนเดิม ผมไม่ได้พูดถึงในแง่ต่อว่าหรืออะไร แต่ในตอนนั้นผมให้สัมภาษณ์เพราะว่า นั่นคือความรู้สึกจากใจผมที่ผมทำทุกอย่างเพื่ออาร์เอส ผมพยายามรักษาภาพลักษณ์ทุกอย่างในชีวิตส่วนตัวด้วย สุดท้ายจังหวะที่ผมบอกความเป็นจริง ทุกคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเฮียฮ้อ แต่จริงๆ บทบาทที่ผมจะได้เล่นละครในอาร์เอส คือ เฮียเตี้ย เป็นน้องชาย"

"ตอนนั้นผมมีความคุ้นเคยกับเฮียและมีความสนิทมาก มีความผูกพันและเขาก็ดูแลผมดีมาก ทีนี้จังหวะที่ผมตัดสินใจจะออกจากวงการบันเทิงเป็นการปิดกล้องของละคร วัยร้ายเฟรชชี่ ที่มีน้องแดน, น้องบิ๊ก D2B, น้องอ้อน ลักขณา เขาก็ดีใจฉลองปิดกล้อง มันเป็นจังหวะที่ผมตัดสินใจเปิดเผยว่า จะเลือกเส้นทางนี้หรือเลือกชีวิตส่วนตัว ผมเลยถือโอกาสนี้กราบขอโทษทุกท่านด้วย อย่าไปโจมตีเฮียฮ้อ ไม่ได้เกี่ยวกับเฮียฮ้อ และผมไม่ได้ไปโจมตีใคร ต้องกราบขออภัยด้วยครับ เฮียเตี้ยครับผมขอโทษที่ผมพูดไม่ได้คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะมีผลกระทบ”

“สมัยก่อนดารายุค90 การที่บอกว่ามีแฟน ถ้าเราเป็นพระเอกความนิยมของเราจะน้อยลง เขาเกาะติดคล้ายๆ ไอดอล ทีนี้ถ้าพระเอกของเขาจะไปมีแฟน หรือมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกาะแกะ เขาจะหวง”

อาทิตย์ ริว อาทิตย์ ริว

ความรักที่ผ่านมา ลูกสามกับอดีตภรรยา ?

“ก็เป็นความรักประเภทหนึ่ง เป็นความรักที่ผมค่อนข้างปรารถนาดี ปรารถนาดีกับตัวเองด้วย ปรารถนาดีกับเขาด้วยว่าอยากมีลูก อยากมีความรักด้วยกัน อยากมีหัวแก้วหัวแหวนด้วยกัน อยากประคับประคองครอบครัวไปด้วยกัน อยากเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายไป ตกลงว่าจะอยู่ด้วยกันนะ แต่มันยังขาดช่วงระยะเวลาศึกษาดูใจในความเป็นตัวตนของแต่ละคนจริงๆ อย่างบางคนเขาจะมองภาพในละคร เขามองภาพความเป็นพระเอก เขาบอกริวต้องเป็นอย่างนี้ ในละครริวเป็นอย่างนี้ ฉันรักริวในคาแร็คเตอร์นั้น แต่ตัวผมไม่ใช่ ตัวผมมีความเป็นตัวเอง”

“ด้วยความที่ครอบครัว หมายถึงตัวภรรยาเองก็ต้องคาดหวังว่า ผมน่าจะเป็นพระเอกจริงๆ แต่ทีนี้ผมไม่ใช่ ในชีวิตจริงผมยอมรับเลย ผมเป็นคนเจ้าชู้ แล้วผมพูดตั้งแต่ก่อนคบ ถ้าจะคบกับผมรับได้มั้ยในความเจ้าชู้ เขาบอกรับได้ในความเป็นตัวริว ผมถามว่าแน่นะ ถ้ารับได้ผมก็คบ เลยตัดสินใจอยู่ ตัวปัญหาเหล่านั้น ผมไม่ได้จะพูดถึงว่าจบยังไงหรือมีปัญหายังไง ผมพูดคร่าวๆ ว่าผมได้มีลูกกับเขา แล้วปัญหาในครอบครัวต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องโน้นเรื่องนี้ผมไม่ขอพูดถึง เพราะทุกวันนี้เขาก็มีชีวิตที่ดีแล้วลูกผมก็น่ารัก”

อาทิตย์ ริว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประโยคที่ว่า ริวรู้สึกว่าไม่มีคนรัก จนทำให้คิดอยากฆ่าตัวตาย อันนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง ?

“พอหลังจากชีวิตความรักในครอบครัวไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเรามองภาพสวยเกินไป ถ้ามีลูก เราจะพาลูกไปตรงนั้น จะเลี้ยงลูกแบบนี้ เราจะซื้อเสื้อผ้าให้ลูก แต่งตัวให้ลูกอย่างนี้นะ คนเป็นพ่อจะเป็น ปรากฏว่าเส้นทางที่คิดกับความเป็นจริงมันสวนทางกัน มันกลายเป็นความหึงหวง จากที่เขาบอกว่ารับได้ เขาบอกว่ารับไม่ได้”

จุดที่ทำให้เราคิดฆ่าตัวตาย ?

“เนื่องจากพอผมจบพังทลายกับชีวิตครอบครัว ลูกก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน มีปากเสียงกันนิดหน่อย แล้วแยกย้ายกัน การที่ผมจะไปพบลูก ถ้าผมไปในสภาพที่ไม่มีเงิน ซึ่งคนเป็นพ่อจริงๆ ก็อยากให้เงินเขา เราอยากดูแลเขา การที่ผมเจอทุกครั้งมันต้องใช้เงิน ผมจะรู้สึกว่าลูกผมเป็นตัวประกันหรือเปล่า แต่ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น ผมคิดว่า ถ้าผมมี ผมให้ แล้วผมให้จริงๆ ผมเซ็นเช็คทีละ 3-4 แสน ผมให้จริงๆ เพราะไม่ได้บ่อยเลยที่ผมมีโอกาสเข้าไปเจอลูก แต่ทุกครั้งที่ผมเจอลูก กอดลูกมันมีน้ำตา"

แล้วมันเริ่มพังตอนไหน ?

“เรื่องงานผมไปได้ดีมาก เรื่องเงินทุกอย่างไม่มีปัญหาเลย แต่มีปัญหาเรื่องชื่อเสียง พอมันเป็นข่าวทุกคนก็เอากระแส เกาะติดกระแส สื่อโน้นก็เขียนอย่างนั้น แยกประเด็นผมบ้า ผมเพี้ยน ผมทำร้ายภรรยา ประดังเข้ามาเป็นกระแสไวรัลอยู่ในยุคโซเชียลเริ่มต้นของสมัยนั้น มีเฟซบุ๊ก มีhi 5 เข้ามา"

“แต่ผมจะไม่โทษโซเชียล เพราะโซเชียลเป็นฟรีความคิดเห็นของคน ผมบอกกับตัวภรรยาแล้วว่าอย่าไปสนใจกับกระแสพวกนี้ มันนานาจิตตัง ตัวผมเองทำงานในวงการบันเทิง ผมรู้สิว่าถ้าเราไปแคร์มากกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แสดงว่าผมคงไม่ต้องทำงานอะไรแล้ว 

ครั้งหนึ่งที่อยากฆ่าตัวตาย แต่ก็รอดตรงตรงน้่นมาได้ เพราะเรายังอยากเป็นพ่อของลูกๆ อยู่ ?

“มันเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้พูด ผมเป็นบุคคลหนึ่งที่เคยจะฆ่าตัวตาย ตอนนั้นมีการศึกษาด้วยนะว่า คนฆ่าตัวตาย กระโดดที่ไหนแล้วตาย ต้องดูข่าว ผมต้องคำนวณความสูง ระยะเวลา เขาโดดตอนกี่โมง แล้วเขาทำสำเร็จได้ยังไง ผมเช็กข่าวแล้วเดินทางไป ณ จุดนั้นจริงๆ ผมพยายามอยู่ 2 ครั้ง ผมไป 2 วันติด ครั้งแรกผมไปชั้นจอดรถของห้างๆ หนึ่ง ผมก็มองตรงนี้ผ่านมั้ย อุ้ย! รถผ่าน เดี๋ยวเดือดร้อนคนอื่น แล้วถ้าคนเดินผ่านมากูไปทับเขาตายกูก็บาปอีก ล้มเลิก"

"วันที่ 2 ขอเช็กก่อนว่ามีใครรักกูมั้ย แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณชีพของความรักเกิดขึ้น ยังไงเธอก็จะจากฉันไปให้ได้ งั้นเอาวันนี้แหละ วันที่เขาเดินทางไปต่างประเทศ ก็ไป ณ ที่จุดจุดหนึ่ง ยืนสูบบุหรี่มอง ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่สำเร็จได้ รอจังหวะ นับในใจ ยามก็เดินมาดู ผมก็บอกไม่มีอะไร ดูนกดูไม้ กลัวเขามาล้อมผม เพราะผมยืนนานมากประมาณ 3 ชั่วโมง คือตัดสินใจว่า จังหวะนั้นต้องไม่มีใครผ่านมา แล้วต้องไม่มีรถ ต้องลงในจุดไหน"

"วางโทรศัพท์เตรียมปีนแล้ว สักพักโทรศัพท์มา แฟนโทรมา เขาถามพี่อยู่ไหน ทำไมติดต่อไม่ได้เลย พี่ไปทำอะไร  เขาบอกพี่จะบ้าเหรอ พี่ขอร้อง พี่อย่าบ้า เขาก็ดุผม แล้วเขาร้องไห้ขอร้องอย่าทำ ตอนนั้นผมก็ร้องไห้ เขาก็รักเรา" 

นอกจากนี้ ทางรายการยังได้เชิญ "นิกกี้ พิ้ม" มาร่วมพูดคุย หลังจากทราบเรื่องของ “อาทิตย์ ริว” และอยากช่วยเหลือในฐานะเพื่อนร่วมวงการ

ตอนนั้นสนิทกันมั้ย ?

นิกกี้ : "ไม่ได้สนิทมาก มีเจอกันบ้าง พูดคุยกันบ้าง สำหรับผมมันไม่จำเป็นต้องสนิท สำหรับริวผมไม่ติดอะไรเพราะตัวผมเอง ผมเกเรมาก่อน แล้วสิ่งที่เขาน่าจะเผชิญอยู่ผมเคยผ่านมาหมดแล้ว พอวันนี้ผมตั้งตัวใหม่ได้ ผมรู้สึกว่า ควรจะให้โอกาสคนที่เขาต้องการความช่วยเหลือ  เลยเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแล้วโพสต์ไป แล้วตามหาเขาก็ตั้งใจจริงๆ คือถ้าคนให้เงินคงจะหมดแล้วแหละ เพราะเขาต้องไปใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าคิดว่าจะช่วยต้องให้สุด คิดว่าจะสร้างงานให้เขาก่อน เดี๋ยวจะเอาเขามาทำงานกับองค์กรผม อาจจะมาช่วยทำรายการ ช่วยขายของ ผมเป็นคนที่ถ้าพูดแล้วต้องทำ"

"พอรายการทักมา โอเคมาเซอร์ไพรส์ริว ผมยกเลิกทุกอย่างแล้วมา คือผมไม่ได้องค์กรใหญ่อะไรมาก แต่ผมเชื่อว่าถ้าเขาได้รู้คุณค่าของตัวเอง ได้กลับมาทำงาน ได้เห็นศักยภาพของตัวเอง เขาจะรู้สึกภูมิใจในการที่เขาจะหาเงิน”

อาทิตย์ ริว อาทิตย์ ริว

 ที่มา : รายการคุยแซ่บShow  

logoline