Smart Farmer จ.ปัตตานี โชว์ความสำเร็จสร้างรายได้มั่นคง-ยั่งยืน

13 ธันวาคม 2565 น.ส.สมถวิล มะลิวรรณ เกษตรกร Smart Farmer ด้านข้าว ต.ตรัง อ.มายอ จ.ปัตตานี ถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้มากมายในด้านการพัฒนากระบวนการปลูกข้าว ให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ตรงตามที่ตลาดต้องการ รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้ให้เข้ากับพื้นที่ของเกษตรกรเอง ว่า  ตนมีพื้นที่ทั้งหมด 9 ไร่ ปัจจุบันมีการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ได้ผลผลิตข้าว 600 กว่ากิโลกรัมต่อไร่ ข้าว กข43 และข้าวหอมปทุมได้ผลผลิตข้าว 700-800 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่ง 1 ปีเกษตรกรจะปลูกข้าวได้ 2 รอบ ทำให้การทำนามีผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ

โดยแต่ก่อนเกษตรกรในพื้นที่จะทำนาปีละ 1 ครั้ง ซึ่งการทำนาจะใช้วิธีการปักดำ ส่งผลให้ผลผลิตข้าวแตกกอน้อย เนื่องจากว่ามีการปักดำลึกเกินไป และปักดำตื้นเกินไป ผลผลิตข้าวจึงไม่ได้ตามที่เกษตรกรต้องการ จึงได้มีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาส่งเสริม สนับสนุนในการทำนาปีละ 2 ครั้ง โดยการทำนาโยน ซึ่งศึกษาหาองค์ความรู้ในการเพาะต้นกล้าให้ได้ปริมาณตามที่ต้องการและแข็งแรงก่อนนำไปปลูกในแปลงนาต่อไป ส่งผลผลิตให้ได้ผลผลิตจำนวนมาก ต้นข้าวแตกกอเยอะ โดยมีเทคนิคในการเพาะกล้าก่อนโตประมาณ 7 เซนติเมตร ช่วงเวลารอต้นกล้าโตก็มีการปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ใส่น้ำในนาสูงแค่ 5 เซนติเมตร ถ้าน้ำเยอะไปจะทำให้ต้นกล้าลอย เทคนิคเหล่านี้ได้ส่งต่อไปยังกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวตำบลตรัง อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี เพื่อให้สมาชิกมีผลผลิตที่ดี และมีคุณภาพต่อไป

แปลงใหญ่ข้าวต.ตรัง อ.มายอ จ.ปัตตานี มีสมาชิก 56 ราย พื้นที่ปลูก 495 ไร่ มีการรวมกลุ่มเนื่องจากได้รับผลกระทบเรื่องของต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น การเตรียมแปลง ค่าแรงงานในการปักดำ ค่าหว่าน ค่าเก็บเกี่ยว ค่าขนส่ง และอื่น ๆ ซึ่งทางกรมการข้าวได้มีนโยบายการรวมกลุ่มในลักษณะของแปลงใหญ่เพื่อต่อรองราคาที่เกี่ยวกับต้นทุนการผลิต การจัดการระบบน้ำ การเก็บเกี่ยว การตลาด ทางกลุ่มได้เล็งเห็นถึงผลที่เกิดขึ้นในอนาคต ในเรื่องของปัญหาแรงงาน และเกษตรกรรุ่นใหม่ที่จะคงอยู่หรือเพิ่มขึ้น แต่หากมีการจัดการระบบเกษตรแปลงใหญ่ที่ระดมสรรพกำลังในด้านต่าง ๆ จะสามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องของการผลิต การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการตลาดได้ด้วย

นอกจากนี้ทางกลุ่มจึงเข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด นำงบประมาณมาพัฒนากลุ่มโดยการจัดซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตร อุปกรณ์ทางการเกษตร รวมถึงสร้างโรงเรือนในการเก็บรักษาเครื่องจักรและเครื่องมือต่างๆของกลุ่ม ซึ่งสามารถลดต้นทุนการผลิตและได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการทำนาโดยการใช้เทคโนโลยีทำให้คนรุ่นใหม่สนใจอาชีพการทำนาเพิ่มขึ้น กำหนดปฏิทินการทำนาได้ถูกต้องตามฤดูกาลเนื่องจากมีความพร้อมด้านเครื่องมือและการวางแผนการผลิต และสามารถควบคุมคุณภาพข้าวและส่งจำหน่ายข้าวได้ตามที่ตลาดต้องการ

น.ส.สมถวิล  กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในการเป็นเกษตรกรทำนา เราสามารถขายข้าวเป็นข้าวสาร มีตลาดที่รองรับอย่างแน่นอน และบางส่วนก็นำข้าวมาแปรรูปจำหน่ายในชุมชน มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนอีกด้วย