19 กันยายน 2565 นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กับ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้เครือ Sea (ประเทศไทย) ในการร่วมมือด้านการส่งเสริมการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน
โดยนายสินิตย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในทุกระดับ ก้าวสู่การค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยได้เร่งสร้างเครือข่ายการค้าอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการสร้างพาร์ทเนอร์ในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพขนาดใหญ่ โดยความร่วมมือกับแพลตฟอร์มช้อปปี้ที่เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวันในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการรายย่อยของไทย สามารถส่งออกสินค้าไทยผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซของช้อปปี้โดยผู้ประกอบการเปิดเพียงแค่ 1 ร้านค้าบนช้อปปี้ประเทศไทย จะสามารถขายสู่ 3 ประเทศ คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ได้
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้โปรโมทร้านค้าของผู้ประกอบการผ่านแคมเปญ “TOPTHAI” หรือ “หน้าร้านค้าออนไลน์ของกรม” ที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับสินค้าไทย รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อและนำมาสู่ยอดขายสินค้าของผู้ประกอบการไทย โดยมีแคมเปญที่หลากหลาย ทั้ง คูปองส่วนลดและคูปองฟรีค่าจัดส่งให้กับนักช้อป รวมทั้งการปักหมุดร้าน TOPTHAI ไว้ที่หน้าแรกของแอปพลิเคชันเพื่อให้ผู้ใช้งานมองเห็นได้ตั้งแต่หน้าแรก โดยตั้งเป้าหมายว่า จะสามารถผลักดันให้ผู้ประกอบการชาวไทยโดยเฉพาะรายย่อยกว่า 50,000 ราย สามารถขึ้นขายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ เพื่อสร้างยอดขายกว่า 300 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี
ขณะที่นายศิวกร สิริวงศ์ภาณุพงศ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ในครั้งนี้ จะมุ่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทย เพิ่มการรับรู้และโอกาสการเข้าถึงสินค้าไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ที่จะสามารถส่งออกได้อย่างสะดวกผ่านแพลตฟอร์มช้อปปี้
สำหรับ ร้านค้าที่เข้าร่วมโปรแกรม “Shopee International Platform (SIP)” จะได้รับการสนับสนุนในด้านการจัดการร้านค้า เช่น การสร้างร้านค้าในต่างประเทศ การจัดการสินค้าและสต็อก การแชทกับผู้ซื้อ และการจัดส่งไปต่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ในระยะเริ่มต้นจะเปิดโอกาสให้ผู้ขายชาวไทยสามารถรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าใน 3 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์