ดิฉัน ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จึงขอนำภาพที่ถูกลบไปแล้วมาให้ได้พิจารณากันว่า ไม่เป็นกลางอย่างไร ไม่ครบถ้วน หรือไม่อย่างไร มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ เช่น ระยะเวลา และเคสการพิจารณาการควบรวมในต่างประเทศ รวมไปถึงสรุปสาระสำคัญรายงานอนุกรรมการทั้ง 4 ชุด
ส่วนตัวดิฉันดูแล้วก็รู้สึกว่าเป็นกลางอย่างมาก แถมยังเป็นข้อเท็จจริงล้วนๆ !แต่ทางบอร์ดกสทช. ก็รับลูก และมีคำสั่งให้ลบโพสต์นี้ เรื่องน่าประหลาดใจยังไม่หมดแค่นี้ บอร์ดกสทช. เพิ่งมีมติ 3:2 ยื่นกฤษฎีกาให้ตีความอำนาจตนเองเป็นรอบที่ 2 หลังจากถูกปฏิเสธในรอบแรก ด้วยเหตุผลว่าสำนักงานมีอำนาจตีความได้เองอยู่แล้ว และเรื่องนี้เป็นคดีอยู่ในศาลปกครอง ตามกฎหมายแล้วคณะกรรมการกฤษฎีกาจะไม่พิจารณาให้ความเห็นทางกฎหมายในเรื่องที่มีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศาล เว้นแต่จะเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี ได้มีมติหรือคำสั่งเป็นการภายในให้พิจารณา กสทช.จึงสบช่อง ตรงวรรคท้าย "เว้นแต่
จะเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี ได้มีมติหรือคำสั่งเป็นการภายในให้พิจารณา"
ยื่นหนังสือถึงรักษาการนายกฯ ให้ออกคำสั่ง รักษาการนายกฯ ก็เซ็นคำสั่งให้ทันที แว่วมาว่าสนิทสนมกับประธานเป็นการส่วนตัว
ที่ต้องตีความกันใหม่เพราะบอร์ดอยากจะเห็นต่างจากศาลปกครองหรือไม่ เพราะศาลเห็นว่า ประกาศ กสทช.ว่าด้วยมาตรการควบรวมฯปี 2561 ประกอบประกาศ กสทช.ว่าด้วยมาตรการป้องกันการผูกขาดปี 2549 นั้น ได้ให้อำนาจกสทช.ที่จะพิจารณา “อนุมัติ” หรือไม่อนุมัติการขอควบรวมธุรกิจได้อยู่แล้ว
สรุปคือ ศาลปกครองเห็นว่าบอร์ดกสทช.มีอำนาจอนุมัติ ไม่ใช่แค่รับทราบ ซึ่งตรงกับความเห็นตามรายงานอนุกรรมการด้านกฎหมายที้ออกมาก่อนหน้า
แต่คงยังไม่ได้ดั่งใจ จึงตั้งคณะอนุฯที่ปรึกษากฎหมายขึ้นมาอีก 1 ชุด ระดมนักกฎหมายเบอร์ใหญ่ชื่อดังจากทั่วฟ้าเมืองไทย ทั้งบวรศักดิ์ อุวรรณโณ สมคิด เลิศไพฑูรย์ สุรพล นิติไกรพจน์ จรัญ ภักดีธนากุล
และข้อเสนอแนะเรื่องยื่นกฤษฎีกาผ่านนายกก็มาอนุฯชุดนี้นี่เอง