svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อัปเดตสถานการณ์

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677 กองทัพบก ชี้เป็นภารกิจปกป้องอธิปไตย ย้ำไทยยึดสันติแต่พร้อมป้องกันประเทศ

31 ธันวาคม 2568 "กองทัพ" เผยแพร่คลิปวิดีโอปฏิบัติการเข้ายึดคืนพื้นที่บริเวณเนิน 677 อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงกว่า 20 วันที่ผ่านมา สะท้อนภาพการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลฝ่ายไทยในการรักษาและปกป้องอธิปไตยของประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดน โดยคลิปดังกล่าวได้รับความสนใจจากสาธารณชนในวงกว้าง

 

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

เปิดคลิป! "Thai Ranger" ปฏิบัติการยึดคืนเนิน 677

 

 

 

 

รายงานจากกองทัพบก ระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อยึดคืนพื้นที่ซึ่งเป็นของไทยกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างสมบูรณ์ การดำเนินการเป็นไปอย่างต่อเนื่องและต้องเผชิญกับความยากลำบากในหลายด้าน ทั้งสภาพภูมิประเทศและสถานการณ์ด้านความมั่นคง โดยกำลังพลจำนวนหนึ่งต้องเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตระหว่างการปฏิบัติภารกิจ

ทั้งนี้ กองทัพบก ระบุว่า การปฏิบัติการดังกล่าวสะท้อนจุดยืนของไทยที่ยึดมั่นในหลักสันติวิธีและความสงบ แต่ในขณะเดียวกันก็พร้อมปกป้องอธิปไตยและผืนแผ่นดินอย่างถึงที่สุด ตามหลักการที่ว่า “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” และไทยไม่เคยไปรุกรานใคร

 

 

ทัพภาค 1 ยืนยัน บ้านคลองแผง-หนองจาน-หนองหญ้าแก้ว เป็นพื้นที่อธิปไตยของไทยมาโดยตลอด


กองทัพภาคที่ 1 ชี้แจงเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายไทยในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา จ.สระแก้ว โดยยืนยันว่า การดำเนินการของกองทัพภาคที่ 1 เป็นไปด้วยความรอบคอบ ยึดหลักความถูกต้อง และความรับผิดชอบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นสำคัญ

โดยพื้นที่บริเวณบ้านคลองแผง บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว เป็นพื้นที่ในอธิปไตยของประเทศไทยมาโดยตลอด 

ภายหลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศกัมพูชาในอดีต ฝ่ายไทยได้เปิดพื้นที่ดังกล่าวให้ประชาชนจากประเทศกัมพูชาเข้ามาพักพิงชั่วคราวด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้หน่วยงานระหว่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อันสะท้อนให้เห็นถึงบริบทของพื้นที่ในช่วงเวลาดังกล่าวว่าเป็นการรองรับด้านมนุษยธรรม มิใช่การโอนอำนาจหรือสิทธิใด ๆ ในพื้นที่ โดยต่อมา เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ฝ่ายไทยได้ตรวจพบว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีการ ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในลักษณะเป็นที่ทำการของส่วนราชการของฝ่ายกัมพูชา รวมถึงการปรากฏตัวของกำลังติดอาวุธและหน่วยรักษาความมั่นคงของกัมพูชา เข้ามาประจำการในพื้นที่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่จากเดิมที่เป็นการพักพิงด้านมนุษยธรรม ไปสู่ลักษณะที่กระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศ

การเข้าดำเนินการของกองทัพภาคที่ 1 ในการจัดระเบียบพื้นที่ รวมถึงการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบางส่วน จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามความจำเป็น เพื่อฟื้นฟูให้เกิดความสงบเรียบร้อย ป้องกันการใช้พื้นที่ในลักษณะที่กระทบต่อความมั่นคง และยืนยันการดูแลพื้นที่ชายแดนให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐไทย โดยมิได้มีเป้าหมายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ และยังคงคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง

กองทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่า ฝ่ายไทยไม่มีนโยบายรุกล้ำอธิปไตยของประเทศใด และการปฏิบัติทุกขั้นตอนเป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นสำคัญ

กองทัพภาคที่ 1 ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า การปฏิบัติภารกิจของกำลังพลเป็นไปด้วยความโปร่งใส รอบคอบ และตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงในพื้นที่ พร้อมยืนหยัดในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติและความสงบสุขของประชาชนอย่างเต็มกำลัง

 

 

 


แจงปมกัมพูชากังวลระเบิดตกค้างชายแดน ยืนยันไทยยึดกฎหมายสากล ปฏิบัติการไม่กระทบพลเรือน 


ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ชี้แจงกรณีข้อกังวลเกี่ยวกับวัตถุระเบิดตกค้างในพื้นที่พลเรือน โดยได้รับทราบข้อความแจ้งเตือน ของ Cambodia Mine Action Center (CMAC) ที่ขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังต่อวัตถุระเบิดตกค้างในพื้นที่บางแห่ง และขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและประชาคมโลก ดังนี้
    
ฝ่ายไทยให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของประชาชน และการคุ้มครองพลเรือน มาโดยตลอด การปฏิบัติการทุกมิติของฝ่ายไทยดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และหลักความจำเป็นทางทหาร 

โดยมีมาตรการหลีกเลี่ยงการกระทบต่อพื้นที่พลเรือนอย่างเคร่งครัด ฝ่ายไทยขอยืนยันว่าการใช้กำลังทางทหารของฝ่ายไทย มีเป้าหมายเฉพาะต่อภัยคุกคามทางทหาร ที่ชัดเจน และมิได้มุ่งโจมตีพลเรือน ที่อยู่อาศัย หรือพื้นที่เกษตรกรรมของประชาชน ทั้งนี้ ฝ่ายไทยไม่สนับสนุน และไม่ยอมรับการกระทำใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อพลเรือนหรือทรัพย์สินของประชาชนโดยไม่จำเป็น
    
ในขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยเห็นพ้องกับหลักการสากลด้านความปลอดภัยของประชาชน และขอสนับสนุนให้ประชาชนทุกฝ่ายใช้ความระมัดระวังต่อวัตถุระเบิดหรือสิ่งตกค้างจากการสู้รบ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยการเข้าพื้นที่ควรเป็นไปตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายโดยไม่จำเป็น
    
“ฝ่ายไทยขอเน้นย้ำว่า การกล่าวอ้างหรือการสื่อสารข้อมูลใดๆ ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้ และควรหลีกเลี่ยงการสื่อสารที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน หรือเพิ่มความตึงเครียดในสถานการณ์ที่เปราะบาง”
    
ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในความร่วมมือด้านมนุษยธรรม ความโปร่งใส และกลไกระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อส่งเสริม ความปลอดภัยของประชาชน และสนับสนุนการฟื้นฟูสันติภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่ชายแดนระหว่างสองประเทศ
 

 

ดูคลิป