อัปเดตสถานการณ์ไทย–กัมพูชา รบรุนแรงสูง ไทยคุม ช่องอานม้า–ตาควาย

17 ธันวาคม 2568 จากสถานการณ์การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่บ่ายวันที่ 7 ธันวาคม 2568 จนถึงวันนี้ นับเป็นวันที่ 10 แล้วนั้น

 

ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ในภาพรวมวานนี้ (16 ธ.ค. 68) ระบุว่า

 

จังหวัดอุบลราชธานี พื้นที่ช่องบก ตลอดทั้งวัน สถานการณ์โดยรวมปกติ ไม่มีการปะทะขนาดใหญ่ อยู่ในสถานะเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมพื้นที่

 

ช่องอานม้า เป็นพื้นที่การรบเข้มข้นที่สุดตลอดทั้งวัน ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติการเชิงรุกต่อเนื่อง มีการเข้าตีที่หมายตามแผน ปฏิบัติการตาม “ยุทธการศตวรรษ” สามารถควบคุมพื้นที่ได้โดยสมบูรณ์ ตรวจพบและทำลาย PMN-2 ในพื้นที่ ฝ่ายกัมพูชาตอบโต้ด้วย BM-21 ปืนใหญ่ ปืน ค.  ปืนเล็กยาว และ โดรน  ฝ่ายไทยมีการเสริมกำลัง สถาปนาแนววางกำลังใหม่ และวางลวดหนามเพิ่มความมั่นคง

 

จังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่ซำแต – โดนตรวล-ภูผี - สัตตะโสม – พนมประสิทธิโส - ช่องตาเฒ่า ฝ่ายกัมพูชา ยิงปืนใหญ่ไปยังพื้นที่ช่องตาเฒ่า - สัตตะโสม โดยฝ่ายกัมพูชา ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามาที่บริเวณเขาสัตตะโสมต่อเนื่อง จากการข่าวพบฝ่ายกัมพูชาขาดเสบียง และพยายามต่อต้านฝ่ายไทยด้วยอาวุธหนัก

 

พื้นที่ ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะเป็นระยะๆ ด้วยปืนเล็กยาว และ ปืน ค. ประปราย  ฝ่ายไทยได้ตรวจพบ รถส่งกำลังบำรุงและรถบรรทุกฝ่ายตรงข้ามหลายครั้ง  ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด ยิงทำลายเป้าหมายทางทหารฝ่ายกัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชาได้ใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ รถถัง รวมถึงโดรนทิ้งระเบิดตอบโต้กันเป็นระยะตลอดทั้งวัน ภาพรวมฝ่ายไทยยังควบคุมสถานการณ์ได้

พื้นที่ภูมะเขือ ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายไทยได้ตรวจพบโดรนขนาดใหญ่ คาดว่าเป็นโดรนทิ้งระเบิดของทหารกัมพูชา บินหาเป้าหมาย

 

ส่วนแนวรบช่องสะงำ ไม่มีการสู้รบ สถานการณ์เฝ้าระวัง

 

จังหวัดสุรินทร์ ในพื้นที่ ช่องจอม - ช่องเปรอ - ช่องระยี ทหารกัมพูชาได้ยิง BM-21 จำนวน 1 ชุด เข้ามายังฝั่งไทย

 

พื้นที่คนา ฝ่ายไทยสามารถยึดที่หมายและควบคุมพื้นที่ได้ ทหารกัมพูชาใช้โดรนบินตรวจการณ์ในพื้นที่ตลอด นอกจากนี้ทางทหารกัมพูชายังได้สั่งการให้ยิงปืนใหญ่สนับสนุน ยังพื้นที่ปราสาทคนาหลายครั้ง กระสุนปืนใหญ่ และ BM-21 ตกบริเวณฐานทหาร แต่กำลังพลไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

 

พื้นที่ตาควาย ฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จากการยิงตอบโต้ของฝ่ายทหารกัมพูชา กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จากสะเก็ดระเบิดของอาวุธวิถีโค้ง จาก BM-21 ยิงเข้ามาบริเวณเนิน 350

 

จากนั้นทหารกัมพูชา สั่งการให้ใช้ปืนใหญ่ และ รถถังบุกเข้ายิงไปที่พื้นที่ตาควายหลายครั้ง ก่อนที่จะมีการตรวจพบ UAV ของทางทหารกัมพูชา 1 ลำ บินในพื้นที่

 

 

พื้นที่ช่องกร่าง ทหารกัมพูชายังคงตรึงกำลังตลอดแนว มีการยิงปืนใหญ่เป็นห้วงๆ

 

พื้นที่ตาเมือนธม ไทยตรวจพบ BM-21 และ UAV/Drone ในหลายช่วงเวลา และมีการยิงจากฝ่ายตรงข้ามใส่ฐานฝ่ายเรา แต่ยังไม่เกิดความสูญเสีย อยู่ในสถานะเฝ้าระวังระดับสูง

 

จังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ช่องสายตะกู ปรากฏมีการยิงตอบโต้กันด้วย ปืน ค. และ ปืนเล็กยาว ประปราย ไทยมีการยิงตอบโต้ด้วย ปืน ค. และ ปืนใหญ่อย่างหนาแน่นเวลา

 

สรุปสถานการณ์ภาพรวมตลอดวันที่ 16 ธ.ค. 68 เป็นวันที่การรบมีความรุนแรงสูง โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้าและปราสาทตาควาย ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเชิงยุทธการ ใช้อาวุธประสานหลายมิติ (ปืนใหญ่ รถถัง ทหารราบ และโดรน) ฝ่ายกัมพูชาใช้ BM-21 ปืนใหญ่  ปืน ค.  UAV และโดรนทิ้งระเบิด อย่างต่อเนื่อง

 

ฝ่ายไทยสามารถ ยึดควบคุมพื้นที่สำคัญหลายจุดได้สำเร็จ โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้า มีกำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บหลายราย แต่ระบบแพทย์สนามและการส่งกลับทำได้ต่อเนื่อง แนวโน้มสำคัญ คือ กัมพูชามีการใช้โดรนจำนวนมากขึ้นควบคู่กับการยิงจรวด BM-21 ภาพรวมไทยยังคงครองความได้เปรียบเชิงพื้นที่และการควบคุมสถานการณ์ได้ดี

 

ทั้งนี้ ในทุกปฏิบัติการที่เกิดขึ้น เป็นไปด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในขีดความสามารถและศักยภาพของกองทัพไทย จะปกปักรักษาอธิปไตยไทยไม่ให้เสียแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว