
11 ธันวาคม 2568 ในสมรภูมิยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีการทหารที่เคยมีราคาสูงลิ่วกำลังถูกท้าทายด้วย "อาวุธประชาชน" ที่มีต้นทุนต่ำแต่ประสิทธิภาพการทำลายล้างสูง นั่นคือ
โดรน FPV (First-Person View) กามิกาเซ่ (FPV Kamikaze Drones) หรือ โดรนพลีชีพ
ซึ่งได้กลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง และส่งสัญญาณว่าสงครามแบบเดิมกำลังจะถึงจุดสิ้นสุด
จุดชนวนสงครามด้วยมุมมองบุคคลที่หนึ่ง
โดรนเหล่านี้ทำงานภายใต้หลักการที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง: ผู้ควบคุมสวมแว่นตา FPV เพื่อบังคับโดรนที่ติดหัวรบขนาดเล็ก โดยมองเห็นภาพจากกล้องของโดรนแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถนำทางโดรนที่บินด้วยความเร็วสูง เข้าสู่เป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้ด้วยความแม่นยำระดับ "มือปืน" จากระยะไกล
"นี่คือการผสานรวมระหว่างความแม่นยำของขีปนาวุธนำวิถี กับความยืดหยุ่นของโดรนสอดแนม" ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงกล่าว "มันสามารถซอกซอนเข้าโจมตีจุดอ่อนของรถถังหรือบังเกอร์ได้ ซึ่งอาวุธใหญ่ๆ ทำได้ยาก"
ราคาถูก สังหารแพง: ความคุ้มค่าที่ไม่เคยมีมาก่อน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โดรน FPV กามิกาเซ่กลายเป็นฝันร้ายของกองทัพคือ ต้นทุน โดรนพลีชีพเหล่านี้มักประกอบจากชิ้นส่วนทางการค้าที่หาได้ทั่วไป (COTS) ทำให้มีราคาต่อหน่วยเพียงหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทเท่านั้น ในขณะที่มันสามารถทำลายยานเกราะหรือระบบปืนใหญ่ที่มีมูลค่าหลายสิบล้านหรือหลายร้อยล้านบาทได้อย่างง่ายดาย
นี่จึงเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "อาวุธราคาถูกสังหารแพง" ซึ่งทำให้กองทัพที่ต้องพึ่งพายุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ต้องเผชิญกับอัตราการสูญเสียที่รับมือได้ยาก
สัญญาณเตือนถึงความท้าทายด้านการป้องกัน
แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องพิสัยการบินและระยะเวลาการทำงานที่สั้น แต่ความคล่องแคล่วและการบินในระดับต่ำทำให้โดรน FPV หลบหลีกระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบดั้งเดิมที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับเครื่องบินหรือขีปนาวุธขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี
ขณะนี้ หลายประเทศจึงต้องเร่งพัฒนามาตรการตอบโต้ ทั้งในรูปแบบของ:
* สงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW): การรบกวนสัญญาณควบคุมและวิดีโอ (Jamming)
* ระบบป้องกันระยะประชิด (C-UAS): การใช้โดรนต่อต้านโดรน หรือระบบปืนยิงเร็วแบบอัตโนมัติ
บทสรุป
โดรน FPV กามิกาเซ่ ไม่ได้เป็นเพียงอาวุธทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นขุมกำลังสำคัญที่บ่งชี้ว่าสงครามในอนาคตจะไม่ได้ตัดสินด้วยขนาดของกองทัพ แต่ด้วยความสามารถในการผลิตและปรับใช้นวัตกรรมอย่างรวดเร็วและคุ้มค่า
โดรน FPV (First-Person View) กามิกาเซ่ หรือที่มักถูกเรียกว่า โดรนพลีชีพ (Suicide Drone) หรือ โดรนโจมตีแบบพุ่งชน (Loitering Munition) เป็นหัวข้อที่น่าสนใจและมีความสำคัญในบริบทความมั่นคงและการทหารยุคใหม่ครับ
โดรน FPV กามิกาเซ่ (FPV Kamikaze Drones)
1. หลักการทำงานและการใช้งาน
* FPV (First-Person View): ผู้ควบคุมจะสวมแว่นตาที่มีหน้าจอขนาดเล็ก ซึ่งแสดงภาพวิดีโอแบบเรียลไทม์จากกล้องที่ติดอยู่บนโดรน ทำให้ผู้ควบคุมรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ในห้องนักบินของโดรนนั้นเอง การควบคุมด้วย FPV นี้ให้ความแม่นยำและความคล่องแคล่วสูงในการบังคับทิศทาง โดยเฉพาะในพื้นที่แคบหรือซับซ้อน
* "กามิกาเซ่" / พลีชีพ: ชื่อนี้มาจากภารกิจของโดรนที่ออกแบบมาเพื่อ ทำลายเป้าหมายด้วยการพุ่งชน (Impact) ตัวเองเข้ากับเป้าหมายโดยตรง ตัวโดรนจะติดตั้งหัวรบขนาดเล็กหรือระเบิดไว้ เมื่อพุ่งชนเป้าหมายก็จะเกิดการระเบิดและทำลายตัวโดรนเองไปพร้อมกัน
2.คุณสมบัติเด่น
-ต้นทุนต่ำ ส่วนใหญ่มักใช้ชิ้นส่วนและเทคโนโลยีที่หาได้ทั่วไป (Commercial Off-the-Shelf - COTS) ทำให้มีราคาถูกกว่าขีปนาวุธหรือโดรนทางทหารขนาดใหญ่
-ความแม่นยำสูง การควบคุมแบบ FPV ช่วยให้ผู้ควบคุมสามารถนำโดรนเข้าโจมตีเป้าหมายที่เคลื่อนที่ หรือเป้าหมายขนาดเล็กได้อย่างแม่นยำ
-ความคล่องตัว มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และสามารถบินในระดับความสูงต่ำ หลบหลีกสิ่งกีดขวาง และเข้าใกล้เป้าหมายโดยยากต่อการตรวจจับ |
-ความเร็วในการผลิต สามารถปรับปรุงดัดแปลงหรือผลิตจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว
3.ประเภทของเป้าหมาย
โดรนเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการโจมตีเป้าหมายหลากหลายประเภท เช่น:
* บุคลากรและกลุ่มทหาร: ที่กำลังเคลื่อนที่หรืออยู่ในที่กำบังที่ไม่แข็งแรง
* ยานพาหนะเบาและยานเกราะ: เช่น รถบรรทุก รถหุ้มเกราะลำเลียงพล (APC) หรือแม้แต่รถถัง (โดยการเล็งจุดอ่อน)
* ตำแหน่งปืนใหญ่และฐานที่มั่น: การโจมตีจุดที่มีการรวมตัวของอุปกรณ์หรือกำลังพล
4. บทบาทในการทหารยุคใหม่
โดรน FPV กามิกาเซ่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในความขัดแย้งสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามรัสเซีย-ยูเครน มันได้กลายเป็นอาวุธสำคัญที่:
* ทำลายความเหนือกว่าด้านยุทโธปกรณ์ของฝ่ายตรงข้าม: ด้วยต้นทุนที่ต่ำแต่มีประสิทธิภาพในการทำลายสูง
* เพิ่มการสอดแนมและการลาดตระเวน: สามารถใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมก่อนการโจมตีจริง
* สร้างความกดดันทางจิตวิทยา: ด้วยความสามารถในการปรากฏตัวและโจมตีอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
5.ข้อจำกัดและความท้าทาย
* พิสัยการบินจำกัด: โดยทั่วไปมีพิสัยและระยะเวลาการบินที่สั้นกว่าโดรนสอดแนมขนาดใหญ่
* ต้องการผู้ควบคุมที่มีทักษะ: การควบคุมแบบ FPV ในสภาวะกดดันต้องการการฝึกฝนสูง
* อ่อนไหวต่อมาตรการ ECM: ระบบควบคุมและส่งสัญญาณวิดีโอสามารถถูกขัดขวางโดยอุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Countermeasures - ECM) ได้ง่าย
ภาพและข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก Whisky Tactical และ thaiarmedforce.com