ด่วน! ทภ.1 เริ่มตอบโต้ พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังกัมพูชายิงใส่

8 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 มีการเตรียมพร้อม 100% 

 

มีรายงานว่า พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ลงพื้นที่ชายแดนด้าน จ.สระแก้ว ซึ่งมีความอ่อนไหวมากที่สุด เพื่อควบคุมสถานการณ์ และเตรียมสั่งการกำลังพลด้วยตนเอง

โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้รับรายงานจาก กกล.บูรพา เกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา พบว่า ฝ่ายกัมพูชาได้เตรียมพร้อมรบสูงสุดตามแนวชายแดน ในพื้นที่ จ.สระแก้ว

 

มีการตรวจพบเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมถึงอาวุธหนักเข้าที่มั่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเฝ้าติดตามฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งตลอดห้วงเช้าของวันนี้ ได้รับรายงานการเคลื่อนกำลังเข้าประชิดชายแดน ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของไทย รวมทั้งสร้างความไม่ปลอดภัยในชีวิตของประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลงสันติภาพไทย-กัมพูชา

 

ต่อมา พบมีการยิงกระสุนปืนเล็กใส่บริเวณถ้ำเสือ บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารไทยจึงตอบโต้ตามกฎการปะทะ

 

ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 1 โดย กกล.บูรพา จึงเข้าปฏิบัติการทางทหารยึดคืนพื้นที่อธิปไตยของไทย บริเวณชายแดน จ.สระแก้ว

 

มีรายงานว่า กองทัพภาคที่ 1 เปิดปฏิบัติการที่ชื่อ “ยึดคืนผืนดินไทย” ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยเน้น 2 พื้นทื่ ซึ่งมีข้อพิพาทกันมายาวนาน โดยแหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่า กำลังพลทุกส่วน พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง

 

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาเคยสร้างสถานการณ์ยิงเข้ามายังฝั่งไทยก่อน บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ทำให้ฝ่ายไทยยิงตอบโต้ และฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ข่าวเท็จว่าไทยยิงก่อน และมีชาวกัมพูชาเสียชีวิต รวมถึงได้รับบาดเจ็บ ซึ่งไม่เป็นความจริง

 

โดยในครั้งนั้น ทางกองทัพภาคที่ 1 ก็เตรียมพร้อม 100% ในการตอบโต้ โดยล็อกเป้าฐานทหาร และฐานยิงที่สำคัญของฝั่งกัมพูชา รวมถึงอาคารที่เป็นกาสิโน และอาคารที่ถูกใช้เป็นสำนักงานของแก๊งสแกมเมอร์ เพื่อทำลายท่อน้ำเลี้ยงด้านเงินทุนของกัมพูชา รวม 13 จุด ในพื้นที่เมืองปอยเปตและใกล้เคียง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีคำสั่งอนุมัติจากฝ่ายการเมือง ทำให้ไม่มีการตอบโต้ใดๆ