svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวสถานการณ์

เปิดสาเหตุ "น้ำท่วมภาคใต้" หนักกว่าปี 53 ชี้ฝนหนัก 24 ชั่วโมง สูงสุดในรอบ 300 ปี (มีคลิป)

เปิดสาเหตุ "น้ำท่วมภาคใต้" ถล่มหาดใหญ่ หนักกว่าปี 53 ชี้ฝนหนัก 24 ชั่วโมง สูงสุดในรอบ 300 ปี เร่งระบายน้ำเต็มศักยภาพ ลดผลกระทบ

24 พฤศจิกายน 2568 เพจเฟซบุ๊ก กรมชลประทาน โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.หาดใหญ่ และหลายพื้นที่ใน จ.สงขลา ว่า

เปิดสาเหตุหลักน้ำท่วมภาคใต้ เกิดจากฝนตกหนัก 24 ชั่วโมง มีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 300 - 500 มิลลิเมตร (มม.) กรมชลประทาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำอย่างเต็มศักยภาพ 

 

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสาเหตุน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคใต้ เกิดจากตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 68 จนถึงปัจจุบัน อิทธิพลของร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ของภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ส่งผลให้เกิดอุทกภัยรวม 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล สงขลา พัทลุง ตรัง นราธิวาส ปัตตานี และ ยะลา โดยปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง วัดได้มากกว่า 300 - 500 มม.

 

สำหรับจังหวัดสงขลา มีฝนตกหนักครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ ที่วัดปริมาณฝนสูงสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 68 วัดได้ 335 มม.ซึ่งเป็นปริมาณฝนตกหนักในรอบ 300 ปี สำหรับปริมาณฝนสะสม 3 วันย้อนหลัง (19 – 21 พ.ย. 68) ได้สูงสุดถึง 630 มม. (มากกว่าครั้งที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ของอำเภอหาดใหญ่ เมื่อปี 2553 ที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 428 มม.) มีน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 0.50 – 2.50 เมตร

 

นอกจากนี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก สายรอง รวมทั้งคลองสายต่างๆ ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ อาทิ คลองวาด คลองอู่ตะเภา คลองต่ำ คลองหวะ รวมถึง คลองภูมินาถดำริ (คลองระบาย ร.1) ที่เป็นคลองขุดระบายน้ำสายใหม่ ที่ใช้ผันน้ำจากคลองอู่ตะเภาไปลงทะเลสาบสงขลาได้เร็วขึ้น มีศักยภาพในการระบายน้ำได้ 1,200 ลบ.ม./วินาที ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ได้เป็นอย่างมาก ขณะนี้ยังคงมีฝนตกในพื้นที่ แต่มีแนวโน้มลดลง หากไม่มีฝนเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 - 5 วัน

 

กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 32 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 14 ชุด เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด

 

ทั้งนี้ ปริมาณฝนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สูงเกินกว่าศักยภาพการออกแบบของคลองภูมินาถดำริ (คลองระบาย ร.1) แต่ด้วยความสามารถในการระบายน้ำ 1,200 ลบ.ม./วินาที และมีสถานีสูบน้ำบางหยีศักยภาพ 90 ลบ.ม./วินาที ที่ปลายคลอง ยังมีส่วนสำคัญช่วยลดน้ำที่จะไหลเข้าสู่เขตอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งหากไม่มีคลอง ร.1 สถานการณ์น้ำที่ อ.หาดใหญ่ อาจรุนแรงกว่าที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างมาก

เมื่อน้ำในคลองไม่ล้นตลิ่งแล้ว กรมชลประทานจะระดมเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำต่อไป

 

เปิดสาเหตุ "น้ำท่วมภาคใต้" หนักกว่าปี 53 ชี้ฝนหนัก 24 ชั่วโมง สูงสุดในรอบ 300 ปี (มีคลิป)

 

ภาพและข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก กรมชลประทาน
 

 

ดูคลิป