svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตร.เตรียมใกล้สรุปสำนวนคดี "นัทปง" รู้แล้วได้ "ไซยาไนด์" จากไหน

ตร.เตรียมสรุปสำนวนคดี "นัทปง" เหลือสอบพยานสำคัญอีก 2 ปาก ตอนนี้รู้แล้วได้ "ไซยาไนด์" มาจากไหน เผยมีความพยายามคิดสั้นตั้งแต่เดือน พ.ย.

7 ธันวาคม 2568 ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ นายณัฐวุฒิ ปงลังกา หรือ นัทปง นักข่าวและผู้ประกาศข่าวช่องดัง ในบ้านพักย่านบางกรวย เมื่อ 30 พ.ย.68 ต่อมาผลชันสูตรเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.68 พบสารไซยาไนด์ในร่างกาย และเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต โดยตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่า เป็นการฆ่าตัวตาย หรือถูกฆาตกรรม
 

ขณะที่ รายการ Phutta Talk ของนายพุทธ อภิวรรณ องค์พระบารมี เปิดเผยคลิปวงจรปิดภายในบ้านวันที่ นัทปง เสียชีวิตบริเวณโต๊ะอาหารชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเหลือเพียง นัทปง นายบิ๊ก และ นายต้น 3 คน มีเสียงคำพูดของนายบิ๊ก พูดขึ้นมาว่า "นอนไม่หลับเลยที่นี่ กินยาตายแล้วมั้งพี่ต้น" เสียงนายต้นตอบ กลับมาว่า "ใช่"
 

อ่านเพิ่มเติม คลิปวงจรปิดชัด เหตุการณ์-สาเหตุ การเสียชีวิต “นัทปง” เพราะอะไร


ตร.เตรียมใกล้สรุปสำนวนคดี "นัทปง" รู้แล้วได้ "ไซยาไนด์" จากไหน

 

ล่าสุดวันนี้ที่ สภ.บางกรวย ในช่วงบ่าย นายสารวัตร กิจพานิช หรือ ไอซ์ สารวัตร ผู้ประกาศช่องดัง ได้มาพบพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียกสอบปากคำ โดยเปิดเผยว่า การสอบปากคำหลัก ๆ วันนี้ จะเป็นการนำพยานหลักฐาน โดยเฉพาะมือถือของนัทปง มามอบให้กับพนักงานสอบสวน ตามที่ทางครอบครัวได้มอบหมายตน เป็นตัวแทนนำมามอบให้กับตำรวจ เบื้องต้นจากการเปิดดูเนื้อหาในโทรศัพท์บางส่วน ตามมารยาทในฐานะคนรู้จัก ก็ไม่พบข้อบ่งชี้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุการเสียชีวิต  เท่าที่ทราบ ญาติเป็นคนนำโทรศัพท์มือถือ นัทปง ออกจากบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งครอบครัวไม่ได้ฝากอะไรมาถึงพนักงานสอบสวนเป็นพิเศษ 
 

 นายสารวัตร กิจพานิช หรือ ไอซ์ สารวัตร ผู้ประกาศช่องดัง
 

สำหรับประเด็นเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า ตำรวจจะเข้าตรวจค้นบ้านของนัทปง และมีการประสานให้นายสารวัตร นำกุญแจบ้านมาให้นั้น นายสารวัตรชี้แจงว่า น่าจะเป็นเรื่องการสื่อสารที่เข้าใจผิดกัน  ตนก็ไม่อยากจะโทษทางตำรวจ เพราะตามจริงตนเป็นเพียงแค่ผู้ประสานงานระหว่างตำรวจและครอบครัวของนัทปง ในการนัดหมายเรื่องการเข้าตรวจค้นบ้าน ในฐานะที่ตนเป็นเพียงพี่น้องของผู้เสียชีวิตคนหนึ่ง ไม่ได้มีฐานะเป็นเจ้าทุกข์ ในเรื่องที่ตำรวจประสงค์อยากจะเข้าค้นบ้านนัทปง ทางครอบครัวก็ยินดี แต่ติดปัญหาตรงที่ครอบครัวอยู่ระหว่างการจัดพิธีศพตามประเพณีชาวเหนือ ซึ่งตอนแรกตำรวจประสานจะขอเข้าตรวจค้นบ้านในวันนี้  แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนก็ได้แจ้งทางตำรวจไปว่า ทางครอบครัวขอเลื่อนเพราะยังติดงานศพอยู่
 

“ย้ำว่าตนไม่ใช่คนถือกุญแจ อีกทั้งยังไม่เคยเห็น และไม่เคยส่งกุญแจให้ใครด้วย เป็นเพียงแค่ตัวกลางในการประสานงานระหว่างครอบครัวกับตำรวจเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไร ตนก็ไม่มีอำนาจการตัดสินใจอยู่แล้ว และไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ข้าวของภายในบ้านของนัทปงมีอะไรบ้าง ถ้าตนถือกุญแจบ้านจริงและเป็นคนเปิดบ้านให้ตำรวจเข้าค้น ก็คงตอบไม่ได้หากมีข้าวของในบ้านหายไป” 
 

 นายสารวัตร กิจพานิช หรือ ไอซ์ สารวัตร ผู้ประกาศช่องดัง

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มีรายงานว่าทางตำรวจกำลังพิจารณาเตรียมออกหมายค้น เข้าตรวจค้นบ้านนายณัฐวุฒินั้น นายสารวัตร ระบุว่า
 

เหตุการณ์นี้ผ่านมาแล้วกี่วันแล้ว ซึ่งมีความเป็นจริง ตำรวจควรต้องเข้าตรวจค้นบ้านนายณัฐวุฒิตั้งแต่วันแรก ๆส่วนตัวที่เคยทำข่าวคดีต่าง ๆ มานาน ก็ทราบดีว่า บางกรณีตำรวจก็ไม่จำเป็นต้องขอหมายค้นก็ได้ หรือแม้กระทั่งพยานต่าง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกก็ได้ เพราะทุกคนก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลกับทางตำรวจอยู่แล้ว ไปขึ้นหมายเรียกแบบนี้ทุกคนก็ตกใจกันหมด จริงๆ แค่ประสานขอความร่วมมือให้ทุกคนมาให้ปากคำทุกคนก็พร้อมเดินทางมาอยู่แล้ว
 

นอกจากนี้ ตามที่เสนอข่าวว่า ตอนแรกผู้พบศพแจ้งว่า นายณัฐวุฒินั้นกินยาฆ่าตัวตายนั้น  ตนคงตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงแจ้งไปแบบนั้น และไม่ทราบว่ากระบวนการหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น บ้าง
 

ส่วนประเด็นที่ว่า ตำรวจจะมีข้อมูลพยานหลักฐานทั้งกล้องวงจรปิดหรือข้อมูลอื่น ๆ แล้วหรือไม่นั้น ตนไม่มั่นใจ เพราะนี่เป็นการมาพบตำรวจเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่การพูดคุยทางโทรศัพท์ ขณะที่ในเรื่องทางคดี ก็เป็นฝ่ายญาติดำเนินการเป็นหลักมากกว่า
 

สำหรับคนในวงที่รับประทานอาหารกับนายณัฐวุฒิเป็นครั้งสุดท้ายนั้น 2 คนแรกคือ น.ส.โอ และ น.ส.ออ ตนรู้จัก เพราะเป็นพนักงานของสถานีและเพื่อนร่วมงานกัน ส่วนอีก 2 คนที่เป็นเพื่อนนายณัฐวุฒิ ตนรู้จักแค่นายต้น ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายณัฐวุฒิมานานแล้ว แต่ตนไม่สนิท ส่วนนายบิ๊กไม่เคยเจอหน้าแต่อย่างใด  
 

“นายณัฐวุฒิเองก็มีสังคมอยู่หลายสังคม โดยเฉพาะสังคมสื่อมวลชนด้วยกัน ที่ทุกคนก็รู้จักนายณัฐวุฒิเป็นอย่างดี และแน่นอนว่า นายณัฐวุฒิไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนวงอื่นให้ตนฟัง”
 

ขณะที่ประเด็นเรื่องซองสารไซยาไนด์นั้น ประเด็นนี้ตามนายพุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี ซึ่งเป็นหัวหน้าของนายณัฐวุฒิอีกที เคยนำเสนอไปแล้วว่า ไม่มีใครเจอซองยาดังกล่าว ตนก็ไม่ทราบ คนที่ทำงานด้วยกันก็ไม่ทราบ แต่เป็นประเด็นที่พวกเราตั้งข้อสงสัย และไม่ได้ปล่อยผ่านในเรื่องนี้  ซึ่งไม่ว่าอย่างไร ในฐานะที่นายณัฐวุฒิเป็นพี่ชายคนหนึ่ง เราก็ไม่อยากตีความให้กระทบเกียรติของผู้ตาย และความรู้สึกของครอบครัว ถือเป็นเรื่องที่ทำให้เราลำบากใจในเรื่องของการตีความ และวิเคราะห์ข่าวนี้ นั่นเลยทำให้เราต้องหาข้อมูลข้อเท็จจริงออกมาก่อน จึงจะสามารถนำออกมาพูดได้ ดังนั้น พวกเราไม่ใช่กลุ่มคนที่พบซอง แต่เกิดจากการที่มีคนมาบอกว่า นายณัฐวุฒิเคยพูดถึงและเคยเอามาให้ดู เลยให้คนที่นำข้อมูลมาให้นำข้อมูลซองดังกล่าวมาให้ดู


ขณะเดียวกัน ประเด็นเรื่องสารไซยาไนด์ ตนก็ไม่เคยได้ยินจากปากของนายณัฐวุฒิ ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เราจะพูดถึง ไซยาไนด์ เฉพาะตอนที่ทำข่าวเท่านั้น แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีไว้ในครอบครองแต่อย่างใด
 

ทั้งนี้ นายสารวัตรกล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ยังไม่อยากพุ่งเป้าในเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต เพราะตอนนี้พูดอะไรไป ก็กลัวว่าจะถูกนำไปตีความแบบผิด ๆ เช่นเดียวกับความรู้สึกของคนในครอบครัว ที่พอรู้ว่าถูกออกหมายเรียกก็รู้สึกตกใจ แต่อย่างไรก็ตาม ตนสนิทสนมกับนายณัฐวุฒิ และนั่งจัดรายการด้วยกันในวันสุดท้าย ก่อนที่นายณัฐวุฒิจะเสียชีวิตไม่กี่ชั่วโมง ตนก็ไม่เห็นสัญญาณว่า จะทำร้ายตนเอง เช่นเดียวกับคนในวงนั้นที่ทุกคนล้วนแต่จะเป็นคนรู้จัก ก็ไม่มีเหตุผลที่จะตอบได้ว่าทำร้ายกันด้วยเรื่องอะไร
 

เรียกสอบ 4 เพื่อนในวง "นัทปง" เค้นสองเพื่อนชายที่อยู่ด้วยก่อนเสียชีวิต

 

ขณะที่ช่วงสายที่ผ่านมา น.ส.โอ น.ส.ออ และ นายบิ๊ก มายัง สภ.บางกรวย เพื่อเข้าให้ปากคำตำรวจ ซึ่งทั้งหมดร่วมวงเลี้ยงสังสรรค์ในบ้านคืนที่เกิดเหตุ โดย น.ส.โอ และ น.ส.ออ มีสีหน้าเรียบเฉย ส่วนนายบิ๊กมีสีหน้ากังวลเล็กน้อย กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องพนักงานสอบสวนว่า ขอเข้าให้ปากคำก่อน แล้วจะให้สัมภาษณ์ในภายหลัง

ภายหลัง 5 ชม. ทั้ง น.ส.โอ และ น.ส.ออ เผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนเชิญมาให้ข้อมูล ที่เกี่ยวข้องในวันเกิดเหตุว่า ในวันดังกล่าวนั้น เกิดอะไรขึ้น ตนและเพื่อนได้ให้ข้อมูลทุกอย่าง จากนี้ให้เป็นของกระบวนการ ของตำรวจ
 

"ยืนยันว่า ตอนที่อยู่ทานข้าวอยู่ในบ้านของนัทปง เป็นการคุยเรื่องงานปกติ ตอนนั้นอารมณ์ทุกคนก็ปกติ ซึ่งนัทปงบอกว่า มีความสุขกับการทำงาน ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน และไม่มีสัญญาณอะไรที่พูดถึงเรื่องการฆ่าตัวตาย และคุยเรื่องอนาคตว่าจะทำอะไรต่อ ส่วนตัวเคยเจอนายบิ๊กมาก่อน แต่ไม่ได้เจอบ่อย และไม่ได้สนิท" 
 

เพื่อนหญิงสองคนของ นัทปง
 

และต่อมาในเวลา 13.00 น. นายต้น เพื่อนสนิทนัทปง ซึ่งอยู่ในบ้านพักก่อนที่นัทปงจะเสียชีวิต ได้เดินทางมายัง สภ.บางกรวย เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้าน ก่อนที่นัทปงจะเสียชีวิตจากไซยาไนด์ โดยนายต้นเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าว
 

ส่วนการสอบปากคำ นายบิ๊ก เป็นอย่างตึงเครียดนานกว่า 6 ชั่วโมง ได้มีช่วงที่เจ้าหน้าที่นำตัวนายบิ๊กเข้าห้องน้ำ  แต่เจ้าตัวยังไม่ได้มีการพูดหรือชี้แจง กับสื่อถึงกรณีที่เกิดขึ้น เพียงแต่บอกว่า "ขอให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วจะออกมาให้ข้อมูลกับสื่อ 
 

นายบิ๊ก หนึ่งในพยานสำคัญ
 

ตร.เผยสอบพยาน 5 คน ทุกคนให้การสอดคล้อง เตรียมเรียกพยานสำคัญอีกปาก เผย "นัทปง" เคยคิดจะฆ่าตัวตายตั้งแต่ต้น พ.ย.ที่ผ่านมา
 

พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 1 เผยว่า วันนี้ได้เชิญพยานบุคคลสำคัญที่อยู่แวดล้อม และรู้เห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนัทปง จำนวน 5 ปาก มาสอบปากคำ ทั้งหมดให้ปากคำในทิศทางเดียวกัน 
 

นอกจากนี้ ยังเตรียมเชิญพยานบุคคลที่สำคัญอีก 1 คน ซึ่งไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และแพทย์นิติเวชผู้ชันสูตรพลิกศพอีก 1 ราย มาสอบปากคำ ซึ่งเมื่อสอบปากคำพยานทั้งหมดแล้ว ก็พอจะสามารถสรุปได้ว่ามูลเหตุที่นำมาสู่การเสียชีวิตนั้นเกิดจากอะไร แต่ทั้งนี้ขอสงวนว่า พยานบุคคลที่สำคัญอีก 1 ปากนั้นคือใคร 
 

"จนถึงตอนนี้เรายังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง แต่เราได้รับข้อมูลจากคนใกล้ชิดว่า ก่อนหน้านั้น 1 เดือน "นัทปง" เคยพูดว่าอยากจะฆ่าตัวตาย และมีการเตรียมสารไซยาไนด์เอาไว้ ส่วนการทำร้ายตนเองนั้นมาจากสาเหตุใด เรามีการสอบปากคำเรื่องนี้เอาไว้แล้ว แต่ขอสงวนเอาไว้ก่อน"  
 

ส่วนประเด็นที่บุคคลที่ใกล้ชิด นัทปง ติดใจเรื่องการตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตั้งแต่วันแรกแล้วพอสมควร แต่ตอนนั้นยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากสารพิษ ทั้งนี้จะเข้าตรวจค้นบ้านอีกครั้ง 11 ธ.ค.นี้ โดยถ้าเราไปตรวจแล้วพบสารต้องสงสัย ก็จะสามารถสรุปประเด็นได้ 
 

สำหรับที่มาของซองไซยาไนด์ ที่พบในบ้านของนัทปงนั้น ทางตำรวจพอมีข้อมูลอยู่บ้างแล้ว ซึ่งจะต้องเรียกพยานที่เกี่ยวข้อ งและรู้เห็นในเรื่องนี้มาสอบปากคำ เบื้องต้นตอนนี้ ซองสารไซยาไนด์ดังกล่าว ยังไม่มีใครนำออกมาจากบ้านหลังนั้น เราเชื่อว่าวัตถุพยานดังกล่าวยังอยู่ภายในบ้าน ส่วนภาพของสารดังกล่าว คาดว่ามาจากคนใกล้ชิดเข้าไปถ่ายในบ้านหลังเกิดเหตุ 
 

พล.ต.ต.อรรถพล กล่าวอีกว่า นัทปง เคยมีพฤติกรรมพูดเกี่ยวกับเรื่องสารไซยาไนด์ กับคนใกล้ชิดเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว แต่ตอนนี้ต้องรอสอบพยานให้แน่ชัดก่อน ส่วนการรู้เห็นเรื่องการครอบครองสารไซยาไนด์นั้นจะมีความผิดทางกฎหมายหรือไม่ ประเด็นนี้ขอสอบให้ชัดเจนก่อนเช่นเดียวกัน 
 

สำหรับแชทพูดคุยในโทรศัพท์ส่วนตัวของ นัทปง นั้น ทางตำรวจได้ดำเนินการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานแล้ว แต่ขอสงวนรายละเอียดเพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน ส่วนเรื่องของพินัยกรรมนั้น เบื้องต้นคิดว่าไม่น่าเกี่ยวข้อง แต่ว่าอย่างไรต้องรอให้ญาติให้ข้อมูลในส่วนนี้ 
 

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จากกรณีที่ปรากฏภาพวงจรปิดเห็นว่า กลุ่มพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุนั้น ไม่ได้ให้การช่วยเหลือ นัทปง อย่างทันท่วงทีก่อนเกิดการเสียชีวิตนั้น ประเด็นนี้เราก็สอบปากคำแล้ว โดยผู้ใกล้ชิดตอนนั้นคิดว่า ผู้เสียชีวิตอาจจะแกล้งหรือประชด คิดว่าไม่เป็นความจริง เพราะเพิ่งมีปากเสียงกัน แต่พอเห็นว่าอาการไม่ดี เลยเรียกเพื่อนให้มาช่วยดู โดยพยานยืนยันเจตนาว่า ไม่ทราบว่ามีการกินยาเข้าไปจริง 
 

ทั้งนี้ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า พยานที่สอบปากคำในวันนี้ จะมีใครที่มีพิรุธหรือไม่ แต่เราดำเนินการสอบปากคำทุกมิติ เรามีการวางประเด็น และยังแยกสอบปากคำพยานทุกคน เช่นเดียวกับการนำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ส่วนอื่น ๆ มาร่วมประกอบพยานหลักฐาน เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าใครพูดจริงพูดเท็จ 
 

ตร.เตรียมใกล้สรุปสำนวนคดี "นัทปง" รู้แล้วได้ "ไซยาไนด์" จากไหน
 

"บิ๊ก" เผย รู้สึกเสียใจ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ 
 

ต่อมาเวลา 16.00 น. ตำรวจได้พาตัวนายบิ๊ก เข้าไปยังห้อง ศปก.สภ.บางกรวย และได้ให้ นายบิ๊กเซ็นรับรอง หลักฐานหลายฉบับที่ใช้ประกอบสำนวนคดี  ก่อนพาออกมาจากห้อง ศปก.สภ.บางกรวย โดย นายบิ๊ก กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ ตอนที่ที่เกิดเหตุก็พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เท่าที่สติมี ณ ตอนนั้น ยอมรับว่า เป็นคนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีคนกินยาเกินขนาด  ส่วนรายละเอียดให้ติดตามกับทางตำรวจ ยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ และพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจเต็มที่
 

มีรายงานว่า การเรียกตัวพยานทั้ง 5 คนมาสอบปากคำในวันนี้ ทางตำรวจได้ให้ชุดพิสูจน์หลักฐาน เก็บลายนิ้วมือของพยานทั้ง 5 คน ที่เดินทางมาให้ปากคำในวันนี้เอาไว้ด้วย 
 

นายบิ๊ก พยานปากสำคัญ