
จากกรณีนายณัฐวุฒิ ปงลังกา หรือ นัท ผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศช่อง 8 ที่เสียชีวิตภายในบ้านที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางกรวย เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.68) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ออกมาเปิดเผยผลชันสูตรว่า พบสาร “ไซยาไนด์” ที่มีปริมาณมากพอที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
6 ธันวาคม 2568 ล่าสุดภายหลัง พล.ต.ต.เดชรพี คงดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.บางกรวย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา
มีรายงานข่าวว่า ในที่ประชุมมีข้อสั่งการเบื้องต้นดังนี้
ขณะที่ นายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ เปิดเผยกรณีที่โพสต์ว่า “นัท จากไปยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง มีคนโทรมาถามหาว่าพินัยกรรมของนัทอยู่กับทนายเจมส์หรือเปล่า มันแปลกๆมั๊ย“ โดยระบุถึงเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นตนไม่ใช่ผู้ดูแลเรื่องพินัยกรรม แต่มีคนโทรมาอ้างว่าเป็นน้องที่สนิทของ “นัทปง” เนื่องจากได้รับข้อมูลจากอีกหนึ่งคนว่า ตนเป็นคนดูแลพินัยกรรม เนื่องจาก“นัทปง” ไว้ใจตนมากที่สุด
และให้เหตุผลว่าตอนนี้มีปัญหาตู้เซฟเปิดไม่ได้ จึงคิดว่าพินัยกรรมน่าจะอยู่กับตน ซึ่งตนก็ตอบกลับไปว่า ไม่มีพินัยกรรม ตนไม่ได้เป็นผู้ดูแล และ ”นัทปง“ ก็ไม่ได้มาปรึกษาเรื่องนี้
หลังจากนั้นวันที่ 2 ที่ตนไปร่วมงาน ก็ได้มีน้องผู้ชาย เป็นทีมงานของ “นัทปง” และอ้างว่าเป็นน้องที่สนิท ซึ่งก็คือคนเดียวกับที่บอกข้อมูลให้คนแรกที่โทรมา ก็มาสอบถามเรื่องพินัยกรรมเช่นเดียวกัน โดยตนก็ไม่ขอให้ข้อมูล เพราะมองว่าไม่ใช่ญาติ แต่เมื่อมีเรื่อง “ไซยาไนด์” จึงตั้งข้อสงสัยว่าคนดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย แต่มาถามหาเรื่องพินัยกรรมทำไม และเพื่ออะไร ซึ่งทั้งสองคนที่โทรมาหาตนนั้น ไม่ได้อยู่ในบ้านวันเกิดเหตุ แต่ผู้ชายคนนี้ทำงานร่วมกับ “นัทปง” ในเคสสุดท้าย แต่ตนก็ไม่รู้จัก
นอกจากนี้กรณีดังกล่าว หากให้พูดในมุมมองของนักกฎหมาย ก็สามารถมองได้หลายอย่าง อาจจะเป็นการฆาตกรรม ฆ่าตัวตาย หรือประมาทก็เป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลสืบสวนสอบสวน แต่คนที่จะฆ่าคนได้สักคนจะต้องมีเหตุจูงใจ ก็ต้องดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นในวันเกิดเหตุ มีการทะเลาะกันหรือไม่ และทะเลาะกันหนักถึงขนาดต้องคิดสั้นไหม ซึ่งก็มีปัจจัยหลายอย่างที่จะต้องพิจารณา