
14 มิถุนายน 2568 พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบ โดรนต้องสงสัย 2 ลำถูกฝังดินในพื้นที่บ้านไร่ออก หมู่ที่ 2 ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา หลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตรวจพบเมื่อค่ำวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบเบื้องต้น โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 (ฉก.ร.5) ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา, สถานีตำรวจภูธรสะเดา , ตชด.437 , ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานภาค 9
พบว่าโดรนทั้ง 2 ลำเป็นโดรนขนาดใหญ่ แบบ 6 ใบพัด ดัดแปลงติดตั้งอุปกรณ์เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 60 มิลลิเมตรจำนวน 6 ช่อง และอุปกรณ์ปล่อยวัตถุระเบิดแสวงเครื่องอีก 1 ชุด แม้ไม่พบวัตถุระเบิดในที่เกิดเหตุ แต่ลักษณะการดัดแปลงชี้ให้เห็นถึงการนำมาใช้โจมตีเป้าหมาย ซึ่งหน่วยพิสูจน์หลักฐานได้เก็บร่องรอยลายนิ้วมือแฝง และวัตถุพยานต่าง ๆ ณ จุดเกิดเหตุ
ล่าสุดได้ข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มขบวนการที่คาดว่าอยู่เบื้องหลังโดรนต้องสงสัย หลังจากนี้ส่วนที่เกี่ยวข้องขอเวลารวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการติดตามผู้กระทำผิดต่อไป
สำหรับขีดความสามารถของโดรนทั้ง 2 ลำ คาดว่าสามารถบินสูงได้ประมาณ 800 เมตร บินไกล 8–10 กิโลเมตร และบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 10–15 กิโลกรัม พร้อมทั้งมีระบบล็อกพิกัด (Home Point) ในการขึ้น-ลง
หลังลงพื้นที่จุดพบโดรนทั้ง 2 ลำ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เรียกประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้ง พลตรี อภินันท์ แจ่มแจ้ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 และ พันเอก ทวีพร คณะทอง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 5 รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อร่วมประเมินสถานการณ์และกำหนดแนวทางการสืบสวน ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้นถึง 2 ประเด็นสำคัญ ได้แก่
1. การเตรียมนำโดรนมาใช้ในการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่เมืองเศรษฐกิจ หรือสถานที่ราชการสำคัญ
2. การนำมาใช้ลักลอบขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะตามแนวชายแดนไทย–มาเลเซีย
ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงทั้งไทย และประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย อยู่ระหว่างประสานความร่วมมือเร่งสืบสวนขยายผลร่วมกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายในพื้นที่ และจะรายงานความคืบหน้าต่อไป