14 มิถุนายน 2568 หลังเที่ยงคืนของวันที่ 13 มิถุนายน ปฏิบัติการของอิสราเอลที่มีรหัสว่า "สิงโตผงาด" (Rising Lion) ได้เปิดฉากขึ้นด้วยปฏิบัติการที่แตกต่างกัน 2 ภารกิจ แต่ก็เสริมกำลังซึ่งกันและกัน
ปฏิบัติการแรก คือฝูงโดรนพิฆาตขนาดเล็กที่หน่วยคอมมานโดอิสราเอลลักลอบนำเข้าไปในอิหร่าน เมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ ได้โจมตีเรดาร์ป้องกันภัยทางอากาศ และโหนดการสื่อสาร (communications node) หรือ จุดเชื่อมต่อในเครือข่ายการสื่อสารที่ทำหน้าที่รับ ส่ง หรือจัดการข้อมูล
ขณะเดียวกันก็หลอกล่อเบี่ยงเบนความสนใจไปที่แนวด้านตะวันตกของกรุงเตหะราน
ก่อนที่อีกไม่กี่นาทีต่อมา เครื่องบินรบมากกว่า 200 ลำ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินขับไล่ F-35 อะดีร์ (F-35 Adir) ที่ติดตั้งขีปนาวุธพิสัยไกล ได้โจมตีเป้าหมาย "นิวเคลียร์และทางทหาร" มากกว่า 100 แห่งทั่วอิหร่านอย่างแม่นยำ รวมถึงผู้นำระดับสูงของกองทัพด้วย
ปฏิบัติการครั้งนี้ ยังถือเป็นการเปิดตัว F-35 Adir ในภารกิจสงคราม ซึ่งที่จริงเครื่องบินรุ่นนี้มี่ชื่อว่า "F-35 ไลท์นิ่ง ทู" (Lightning II) ซึ่งเป็นเครื่องบินล่องหน หรือสเตลธ์ (stealth) ความเร็วเหนือเสียง ผลิตโดยล็อคฮีท มาร์ติน บริษัทด้านอากาศยาน อวกาศ และการป้องกันประเทศรายใหญ่ของโลกสัญชาติอเมริกัน
ซึ่งอิสราเอลเรียกชื่อใหม่ว่า "อะดีร์" ที่แปลว่า ผู้ยิ่งใหญ่หรือทรงพลังในภาษาฮิบรู และอิสราเอลยังเป็นประเทศแรกที่นำเครื่องบินรบรุ่นนี้ เข้าสู่การปฏิบัติการจริง
อีกทั้งเครื่องบินรุ่นนี้ ยังได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมโดยเฉพาะ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของกองทัพอิสราเอล
ผลที่ได้รับ คือ การรับมือที่ล้มเหลวของฝั่งอิหร่าน เมื่่อเครือข่ายเตือนภัยล่วงหน้าของอิหร่านเต็มไปด้วยโดรนที่ตรวจจับได้ยาก ผู้บัญชาการระดับสูงถูกสังหาร หรืออยู่ในภาวะจำยอมให้ต้องไปหลบภัยในบังเกอร์ที่แข็งแรง และช่องทางการตัดสินใจก็แตกสลายเมื่อขีปนาวุธพิสัยไกลถูกยิงมาใกล้ตัว
แนวทางการโจมตีด้วยการโจมตีที่สร้างความตื่นตระหนกและไม่ทันตั้งตัวนี้ เป็นเหตุผลที่ทำให้อิหร่านตอบโต้ในเบื้องต้นได้จำกัด โดยยิงโดรนออกไปได้เพียง 100 ลำเมื่อเทียบกับโดรนกว่า 200 ลำและขีปนาวุธพิสัยไกลที่ยิงออกไปในโจมตีอิสราเอล ภายใต้รหัส "ปฏิบัติการคำมั่นสัญญาที่แท้จริง" (Operation True Promise) ใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมง เมื่อเดือนเมษายน ปี 2567
การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างการโจมตีระยะไกลแบบเดิม และปฏิบัติการที่ไม่เป็นไปตามรูปแบบในสงครามสมัยใหม่ ที่ต้องการมากกว่าการโจมตีอย่างแม่นยำในระยะประชิด
นั่นคือ ความสามารถในการจับคู่กำลังทางอากาศกับปฏิบัติการพิเศษ เพื่อสร้างผลกระทบในเชิงลึกของสนามรบพร้อมๆ กัน
ดังนั้น "ปฏิบัติการสิงโตผงาด" จึงเป็นพิมพ์เขียวสำหรับยุทธการร่วมในอนาคต ที่จะต้องดำเนินการเพื่อปรับตัวให้เข้ากับลักษณะของสงครามที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งรวมถึงความพยายามในการผนวกกองกำลังปฏิบัติการพิเศษเข้ากับโดรนราคาประหยัด
สรุปก็คือ แผนสิงโตผงาด
- ใช้เวลาวางแผนและเตรียมการหลายเดือน
- ลักลอบส่งหน่วยคอมมานโด และโดรนพิฆาตเข้าไปในอิหร่านก่อนล่วงหน้า
- ปฏิบัติการสิงโตผงาด เริ่มเมื่อหน่วยคอมมานโด เริ่มลงมือปฏิบัติการ ที่รวมถึงการใช้โดรนพิฆาตทำลายระบบป้องกันของอิหร่าน
- เครื่องบินขับไล่ 200 ลำ รวมทั้ง F-35 อะดีร์ เข้าโจมตีที่ตั้งโรงงานนิวเคลียร์ และฐานทัพที่สำคัญ
- การโจมตีได้คร่าชีวิตนายทหารระดับสูงที่เป็นบุุคคลสำคัญและนักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์
- ระบบบัญชาการทางทหารของอิหร่าน ตกอยู่ในสภาวะง่อยเปลี้ย ตอบโต้อิสราเอลได้น้อยกว่าที่คาด ขณะที่โครงการนิวเคลียร์หยุดชะงัก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"อิหร่าน" ยิงขีปนาวุธหลายร้อยลูก โจมตีใส่ "กรุงเทลอาวีฟ" ของอิสราเอล
"อิสราเอล" โจมตี "อิหร่าน" เชิงป้องกันเช้าตรู่วันนี้ สั่งเตรียมพร้อมทั่วประเทศ