เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2568 ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความได้มอบอำนาจให้ นายวัชรินทร์ อินทจักร์ เดินทางไปเเจ้งความดำเนินคดีที่ สน.โคกคราม กรณีมีบุคคลซึ่งไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ได้นำข้อมูลและรูปภาพ
ไปทำการเปิดบัญชีเฟซบุ๊กปลอมชื่อ 1."ดร.วิเชียร ชุบไธสง (นายกสภาทนายความ)"2.ดร.วิเชียร์ ชุบไธสง“3." ทนายความ ดร. วิเชียร ชุบไธสง "ซึ่งทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิด และเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายอันจะเป็นความผิดหมิ่นประมาท, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ดร.วิเชียร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ตนได้รับแจ้งจากเพื่อนทนายความว่า มีเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อตน
แต่ทำเป็นรูปภาพคล้ายตัวการ์ตูนใส่เสื้อครุย ซึ่งตนเข้าไปดูแล้วก็แน่ใจว่าไม่ใช่เฟซบุ๊กของตนแน่นอน
หลังจากนั้นก็ให้ทีมงานเข้าไปตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น
ก็พบว่ามีอีก 2 บัญชีเฟซบุ๊กที่ถูกปลอมขึ้นมา ซึ่งมีเฟซบุ๊กอันหนึ่งน่าตกใจมาก เพราะเขานำรูปที่ผมใช้ในการประชาสัมพันธ์ลงรับสมัครเลือกตั้งนายกสภาทนายความเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 ที่เป็นโปสเตอร์ของคณะตน ที่ประกาศจะลงสมัครนายกฯและกรรมการสภาทนายความ ปีบริหาร 2568–2571 ซึ่งทีมงานตรวจสอบแล้วพบว่าเพิ่งเปิดบัญชีมาแค่ 4 วัน และมีการนำรูปกิจกรรมบางอย่างของตนไปใส่แต่ไม่มีข้อความใด ๆ ซึ่งน่าสงสัยมากครับ โดยเฉพาะโปสเตอร์ที่เป็นการเปิดตัวผู้สมัครนายกสภาทนายความ มันเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เลย
ตอนนี้ก็ได้มอบอำนาจให้ทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.โคกคราม เเม้ว่าตอนนี้ยังไม่พบข้อความหรือพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายจากเฟซบุ๊ก แต่การปลอมเฟซบุ๊กแบบนี้ก็ทำให้เสียหายแล้ว และอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าคนที่ปลอมมีเจตนาอะไรแน่ ก็อยากฝากเตือนประชาชนว่าเวลาจะเข้าไปดูเพจหรือเฟซบุ๊ก ขอให้ตรวจสอบความถูกต้องก่อน เพราะอาจมีการหลอกลวง เรียกรับเงิน
ก่อนหน้านี้ก็มีกรณีที่มีคนนำชื่อและรูป พร้อมตำแหน่งตนไปใช้ประชาสัมพันธ์ จนมีผู้เสียหายหลายราย
บางคนโดนหลอก เสียเงินถึง 30 ล้านบาท บางคนก็ 4–5 แสนบาท จนพึ่งมารู้ที่หลังว่าเป็นของปลอม ต้องขอเตือนเลยว่า ตนไม่มีนโยบายรับคดีผ่านเฟซบุ๊ก และไม่ได้เป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นอย่างที่มีคนแอบอ้าง
ส่วนที่ถามว่ากรณีการปลอมเฟซบุ๊กจะเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกสภาทนาความ หรือไม่นั้น ตนยังไม่แน่ใจเจตนา แต่หากมีเจตนาแอบแฝงเพื่อผลทางการเมือง ก็อยากเตือนว่าให้หยุดพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย เพราะไม่เป็นผลดีกับใครเลย และที่สำคัญ ในแนวทางการรณรงค์หาเสียงของ คณะของตนผู้สมัครนายกสภาทนาความหมายเลข 3 และกรรมการหมายเลข 25–46
เรามีนโยบายชัดเจนว่า จะไม่ใส่ร้ายป้ายสี ไม่โจมตีใคร เราจะเน้นผลงานและนโยบาย ซึ่งแนวคิดของเราคือ “สานงานต่อ ก่องานเพิ่ม เริ่มงานใหม่ “
เราจะไม่โจมตีใครเพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพที่ทรงเกียรติ การโจมตีกันไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรและไม่ใช่วิสัยของทนายความผมเชื่อว่าทนายความมีวิจารณญาณในการเลือกผู้นำมาบริหารและให้บริการประชาชนในส่วนการเเจ้งความครั้งนี้จะดำเนินคดีถึงที่สุด เพื่อเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษ และไม่ให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก