"บิ๊กเต่า-ปปง.-ป.ป.ท." สนใจคดี ร่วมตรวจสอบ "เงิน 12 ล้าน" ด้วย
"บิ๊กเต่า-ปปง.-ป.ป.ท." สนใจคดี ร่วมตรวจสอบ "เงิน 12 ล้าน" ด้วย พร้อมประสาน "เจ้าของเงิน-คนพบเงิน" เข้าให้ปากคำ ด้านเพื่อนตรงข้ามห้อง "ทวีวัฒน์" ไม่เชื่อเงินเป็นของเค้า
ความคืบหน้ากรณีพบเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท ซุกอยู่ในลังพลาสติก ถูกนำมาทิ้งไว้ที่บริเวณจุดทิ้งขยะหน้าลิฟต์ ชั้น 4 ตึก P 2 คอนโดเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่ถูกซุกอยู่ในลังพลาสติก แต่ด้วยความหลงลืมจึงทำให้ขนลังดังกล่าวซึ่งมีเงินสดจำนวน 12 ล้านบาทไปทิ้ง เมื่อค่ำวันที่ 6 มิ.ย.68 ซึ่งต่อมา "นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว" เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด พร้อมแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
8 มิถุนายน 2568 เมื่อเย็นวานนี้(7 มิ.ย.68) ที่ สภ.ปากเกร็ด พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักริน พันธ์ทอง รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.จิรายุส วานิชกุล ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี, ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ เลขานุการประจำกรรมาธิการปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด ได้ร่วมประชุมกับ พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด, พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด, และเจ้าพนักงานสอบสวน และพิสูจน์หลักฐาน
เพื่อประชุมกรณีเรื่องเงิน 12 ล้านบาท ประชุมเรื่องแนวทางการสืบสวนสอบสวนที่มาที่ไปของเงิน เส้นทางการเงิน ผู้ที่นำเงินมาทิ้งไว้ และผู้ที่มาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของจริงหรือไม่ จะให้พนักงานสอบสวนได้ชี้แจงว่าเรื่องเป็นมายังไง
หลังการประชุมเกือบ 2 ชม. ทางด้าน พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยว่า มาประชุมกับทางคณะทำงาน เพื่อดำเนินการตรวจสอบเรื่องทางการเงิน ส่วนเรื่องการแบ่งมอบหน้าที่การทำงานแบ่งเป็น 3 ส่วน
1. เกี่ยวกับโรงพักที่ต้องดำเนินการคือต้องประสานงานกับทางธนาคาร สอบพยานที่เกี่ยวข้อง
2. เกี่ยวกับเรื่องเส้นทางการเงินจะต้องประสานกับ ปปง. ให้เจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบในวันจันทร์ จะส่งหนังสือไป
3. การสงสัยเรื่องเงินที่ได้มาแบบไหนหรือยังไง อาทิตย์หน้า ปปง. ป.ป.ท. มาร่วมกับเจ้าหน้าที่สอบสวนกลางจะร่วมเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ จะประสานเข้าตรวจสอบ คงจะกระจ่างในไม่ช้า
วันนี้เชิญทางตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) มาด้วย จะส่งพยานหลักฐานบางส่วนมีส่วนที่ต้องส่งตรวจเพิ่มเติม และจะรีบแจ้งผลให้ทราบ ส่วนที่ส่งไปตรวจแล้วมีกล่อง เสื้อผ้า ส่วนเรื่องเงินจะต้องส่งตรวจเพิ่มเติม ส่งตรวจลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอ เพราะตัวธนบัตรยังไม่ได้ส่งตรวจ ยังอยู่ในห้องขัง
เงิน 12 ล้านบาท จะต้องตรวจวันนี้ก่อน เพราะไม่อยากส่งไปกลัวร่องรอยพยานหลักฐานเสียหาย จึงให้เจ้าหน้าที่ พฐ. มาตรวจสอบที่นี่ ส่วนผลตรวจกับธนาคารจะต้องรอวันจันทร์ ทางธนาคารเข้ามาพูดคุยเรียบร้อยแล้ว เป็นธนาคารกสิกรไทยทั้งหมด
ส่วนที่ทาง นายทวีวัฒน์ ที่เข้ามาแสดงว่าเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านบาท จะต้องตรวจสอบซ้ำ ซึ่งเจ้าตัวแจ้งมาว่าไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่นี่ประจำ แต่เข้ามาบางครั้ง เขาบอกว่าเช่าห้องตั้งแต่สมัยตอนเป็นนักศึกษา ทางเจ้าหน้าที่ตรวจจะต้องยึดระเบียบกฎหมาย ในส่วนของกล้องวงจรปิดทางเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบพบว่าไม่สามารถบันทึกได้
พรุ่งนี้(8 มิ.ย.68) จะมีการเรียก นายทวีวัฒน์ เรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมตอนบ่ายซึ่งทางนายทวีวัฒน์อยากได้เงินคืน กำลังอยู่ในระหว่างการนำหลักฐานมาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเอกสารที่ยืนยันจากธนาคาร
เบื้องต้นพรุ่งนี้เขาจะเตรียมหลักฐานมา แต่ไม่ทราบว่าจะพร้อมขนาดไหน ทางด้านนายทวีวัฒน์ตอนเอากล่องไปทิ้งแจ้งกับตนว่ามีอาการมึนเมา พร้อมเรียกพยานทั้ง 3 คนที่เจอเงิน เข้ามาสอบปากคำให้ครบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าบางช่วงบางตอนเกี่ยวกับเรื่องที่มีความสงสัยเรื่องเงินว่าได้มาแบบไหนยังไง
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ระบุว่า อันนี้ได้รับการประสานจาก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. แจ้งว่าในสัปดาห์หน้า ทาง บก.ปปป. สอบสวนกลางร่วมกับทาง ป.ป.ท. ปราบปรามทุจริตภาครัฐ จะเข้ามาร่วมการตรวจสอบในเรื่องนี้
ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ. จักริน พันธ์ทอง รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เป็นผู้รับผิดชอบเป็นหัวหน้าทีม ในการประสานกับทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินยังไงในการขยายหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบ
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวว่า ในส่วนของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ร่วมกับทาง ป.ป.ท. ติดต่อเข้ามาคงเห็นว่าเป็นเคสที่น่าสนใจ และมีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ส่วนเรื่องที่มาของเงิน 12 ล้านบาท จะมีที่มาอย่างไร เราประสาน ปปง. มาร่วมตรวจสอบน่าจะเกิดความกระจ่าง
ด้าน พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ตอบเพิ่มเติมว่า สำหรับคดีนี้จะควบคุมการทำคดีอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อให้หมดความเคลือบแคลงสงสัยของสังคม
เพื่อนตรงข้ามห้องไม่เชื่อ "ทวีวัฒน์" ยกลังใส่เงิน 12 ล้านบาท จากช้ัน 5 ลงชั้น 4 ทิ้งกองขยะ
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ผู้พักอาศัยรายหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ชั้น 5 ตรงข้ามห้องของ นายทวีวัฒน์ ที่อ้างตัวเป็นเจ้าของเงิน ซึ่งโพสต์ลงเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นว่า
"ผมคนนึงไม่เชื่อเชื่อว่าเงิน 12 ล้านเป็นของพี่ทนายที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน โดยอ้างว่าห้องน้ำรั่ว เลยเก็บของที่เป็นขยะในห้องไปทิ้งโดยลืมว่ามีเงินในลัง 12 ล้าน ...
เพราะผมรู้จักพี่เขา เราเจอกันคุยกันทักทายกันตลอด พี่เขาอยู่ชั้น 5 ห้องตรงกันข้ามกับผม เปิดประตูก็ชนกันเลย และพี่เขายังเป็นคนพัทลุงคนควนขนุนบ้านเดียวกับผมอีก ...
เหตุผลที่ว่าพี่เขาว่าลืม และเก็บไปทิ้งมันฟังไม่ขึ้น พี่อยู่ชั้น5 ต้องอุ้มลัง12กิโลเดินลงบันได1ชั้น กว่าจะถึงจุดทิ้งขยะ ชั้น4หน้าลิฟ ...
เพราะลิฟตัวนี้ไม่แวะชั้น5หรือชั้นที่เป็นเลขคี่ ต้องเดินลงอย่างเดียว"
โดย นายเอ็ม (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ตนเคยรู้จักกับนายทวีวัฒน์เจ้าของห้องที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงินมาก่อน ตนเคยรู้จักเขามาประมาณ 4 ปีกว่า เคยพูดคุยและได้ทักทายกันเนื่องจากเขาเป็นคนจังหวัดเดียวกันกับตน
ส่วนใหญ่จะเจอกันที่ตึก ทั้งหน้าห้องและเดินผ่านกัน เนื่องจากห้องเราอยู่ใกล้กัน ทักทายกันตามประสาที่เป็นคนใต้ เช่น เป็นไงบ้างพี่ สบายดีมั้ย กลับบ้านบ้างไหม ประมาณนี้
ตนก็ไม่ได้รู้จักเขาลึกซึ้ง ไม่ได้สนิทกันมากเพียงแต่รู้ว่าบ้านเค้าอยู่ไหน ทำงานอะไร และเขาก็รู้ว่าตนทำงานอะไร ไม่เคยได้นั่งสุงสิงอะไรกันมาก อยู่ห้องใกล้กันและเดินสวนกันบ่อย
จากข่าวที่นำเสนอไปว่าเขาเป็นเจ้าของเงินตนก็รู้สึกเอะใจอยู่เหมือนกัน ว่าถ้าเขาเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านจริง ตนก็ยินดีกับเขาด้วยที่มันไม่หายไป แต่ความรู้สึกทั่วไปจากการที่เราทำงานและมีการคิดวิเคราะห์
การที่เขาให้การว่านำเงินไปวางตรงจุดนั้นมันไม่สมเหตุสมผลหรือเปล่า แต่ก็อาจจะเป็นเงินของเขาจริงก็ได้ แต่ด้วยความที่เขาตกใจ เพราะจากการที่เขาให้สัมภาษณ์มันยังไม่นิ่ง ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องหาต้นสายของเงินต่อไป
แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวของตนเนื่องด้วยเงินจำนวนมาก น้ำหนักจากที่ประมาณไม่ต่ำกว่า 12 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติก ขนาดกล่องก็ไม่ได้เล็ก ทั้งลักษณะท่าทางที่จะต้องยกกล่องขึ้น และการเดินถือกล่องจากบันไดลงมาทิ้ง
ความคิดเห็นส่วนตัวที่ตั้งข้อสังเกต คนทั่วไปที่จะนำของไปทิ้งก็จะต้องตรวจสอบดูก่อน ว่ามันเป็นของที่สมควรทิ้งหรือไม่ แต่อาจเป็นไปได้ที่เขาหลงลืมจริงก็ต้องพิสูจน์กัน
อ่านข่าวเก่า : อึ้งเจอ "เงินสดๆ 12 ล้านบาท" ถูกวางไว้จุดทิ้งขยะคอนโด พร้อมซองจดหมาย "กสทช." ระบุชื่อ "บุคคลนี้"