
5 มิถุนายน 2568 ตามที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ล่าสุด พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) หน.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้
กก.1 บก.สส.สตม. จับกุม นายตง (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 19 พ.ค.2568 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน นำไปซึ่งเงินฝากสาธารณะอย่างผิดกฎหมาย (ออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน) นำตัวส่งพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สถานที่จับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 14 ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน
คดีดังกล่าว สืบเนื่องจาก สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ได้มีหนังสือถึงกระทรวง
การต่างประเทศ แจ้งการร้องขอให้ทางการไทยจับกุมตัวชั่วคราว นายตง (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี สัญชาติจีน เพื่อส่งตัว
เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในความผิดฐาน นำไปซึ่งเงินฝากสาธารณะอย่างผิดกฎหมาย ความเสียหายกว่า 339 ล้านหยวน
(กว่า 1,542 ล้านบาท) และเป็นบุคคลที่องค์การตำรวจสากลได้ออกประกาศสีแดง (INTERPOL RED NOTICE)
ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า นายตง ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ก่อนไปพักอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อรู้ว่าตัวเองมีเจ้าหน้าที่คอยสืบสวนติตตาม จึงได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 14 ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน จึงไปตรวจสอบและวางแผนจับกุม จนกระทั่งพบนายตง ขณะยืนอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุม
จากการสอบถามนายตง ไม่ยอมให้การใด ๆ เจ้าหน้าที่ ชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่งพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ เพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 ต่อไป
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2568 บก.สส.สตม. ได้รับประสานจากเจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ทท. ตรวจพบบุคคลต่างด้าวสัญชาติไต้หวัน จำนวน 3 คน ลักลอบนำโทรศัพท์มือถือ จำนวน 19 เครื่อง ผ่านเข้ามาในประเทศไทยผ่านทางเครื่องสแกนสัมภาระของสนามบินสุวรรณภูมิ
เมื่อทำการตรวจสอบภายในสัมภาระ เบื้องต้นพบว่า โทรศัพท์มือถือทั้ง 19 เครื่อง มีความเชื่อมโยงทางบัญชีทางการเงินของผู้ต้องหาที่หลอกลวงให้ผู้เสียหายในประเทศไทยโอนเงิน โดยตรวจพบหมายเลขบัญชีจากโทรศัพท์มือถือตรงกัน กับบัญชีผู้ต้องหาในเคสไอดีแจ้งความออนไลน์กับระบบ thaipoliceonline ที่ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีไว้แล้วหลายท้องที่เกิดเหตุ ทั้งในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 6
โดยมีรูปแบบการหลอกลวง เป็นลักษณะหลอกลวงขายของทางออนไลน์, หลอกเติมเงินทางออนไลน์,หลอกลวงแลกเงินออนไลน์ เมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้แล้วก็ไม่ได้มีการส่งของ หรือเติมเงินให้กับผู้เสียหาย พบความเสียหาย กระจายวงกว้างในหลายพื้นที่ เบื้องต้น พบมูลค่าความเสียหายกว่าหลักแสนบาท
จากการตรวจสอบในระบบสารสนเทศ ตม. พบว่าบุคคลต่างด้าวทั้ง 3 ราย ไม่เคยเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมาก่อน จากการสืบสวนพบว่าบุคคลต่างด้าวทั้ง 3 ราย มีประวัติอาชญากรรมจากประเทศไต้หวัน โดยเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ฟอกเงิน และเล่นการพนัน บก.สส.สตม. จะได้ขยายผลความเชื่อมโยงทางการเงินไปยังผู้ต้องหารายอื่นเพิ่มเติมต่อไป
โดย ผบก.สส.สตม.ได้ทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว ทั้ง 3 ราย เนื่องจากมีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่า เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคมฯ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. ดำเนินการตามกฎหมาย และประสานงานไปยังท้องที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิด ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใด พบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือ ที่ www.immigration.go.th