ฝากขัง “หมอเตย-จ่าชัย” เตรียมยึดทรัพย์กว่า 100 ล.คืนวัดไร่ขิง

30 พฤษภาคม 2568 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พ.ต.อ.จำนาญ จันทร์เทศ ผกก.5 บก.ปปป. พร้อมพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปปป. เบิกตัว นายฉัตรชัย หรือ จ่าชัย และ นางพชรพร หรือ หมอเตย สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาในคดีสนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัด ออกจากห้องคุมขังเพื่อนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

ขณะเจ้าหน้าที่พาตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายออกจากห้องคุมขัง เดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร เผยให้เห็นสภาพร่างกาย สีหน้าท่าทาง ของทั้งคู่ที่อยู่ในอาการอิดโรยจากความเครียด และผลพวงอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโควิดอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันในช่วงระหว่างที่ทั้งสองถูกคุมตัวเดินไปขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น  แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้แต่อย่างใด


 

หมอเตย-จ่าชัย ปากแข็งไม่สารภาพแม้ถูกเค้น
 

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในส่วนของการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองราย เมื่อคืนที่ผ่านมา เบื้องต้นทั้งคู่ยังคงให้การปฏิเสธ รวมถึงไม่ให้ความร่วมมือใดๆกับทางเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่ได้หนักใจ เนื่องจากพยานหลักฐานที่ตรวจพบโดยเฉพาะเส้นทางการเงิน รวมไปถึงพยานแวดล้อมต่างๆ ค่อนข้างปรากฎแน่ชัด และ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันว่า ทั้งคู่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินของวัด ไปใช้ประโยชน์ส่วนตนอย่างแน่นอน

 

ตร.เตรียมลงพื้นที่ยึดทรัพย์หมอเตยคืนวัดไร่ขิง
 

ขณะที่ในส่วนของการดำเนินการ ของเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีหลังจากนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การสืบทรัพย์ ที่อยู่ในความครอบครอง ของผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ เพื่อตามอายัดทรัพย์กลับคืนวัดไร่ขิง เบื้องต้นขณะนี้ทราบว่า มีบ้านอยู่ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ที่ดินในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จ.ขอนแก่น และ จ.มุกดาหาร รวมถึงคาเฟ่ร้านกาแฟ ในพื้นที่ จ.สุโขทัย  และ ค่ายเพลง “ช่อฟ้า เรคคอร์ด” รถยนต์ที่อยู่ในความครอบรวม 23 คัน รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

โดยภายในสัปดาห์หน้า ทางเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปปป. และ กก.5 บก.ป. จะเร่งกระจายกำลังลงพื้นที่ตามสถานที่ต่างๆ ในหลายจังหวัด เพื่อเข้าตรวจสอบและอายัดทรัพย์สิน ที่ดินต่างๆ เหล่านี้มาตรวจสอบอย่างละเอียด เบื้องต้นขณะนี้มีการอายัดรถยนต์ ที่อยู่ในความครอบครอง ของผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ได้แล้วจำนวน 6 คัน

 

คุมตัว “บอสเตย-สามี” คนสนิททิดแย้มเข้าเรือนจำ หลังไร้เงาญาติยื่นประกัน
 

ต่อมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน ตำรวจได้คุมตัว หมอเตย-จ่าชัย 2 ผู้ต้องหาในคดีสนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัดมายื่นคำร้องฝากขัง ครั้งแรกต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน

ซึ่งรายเเรกนางพชรพร สีเลี้ยง หรือ หมอเตย ผู้ต้องหาที่ 1  ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผุ้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือรับของโจร สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน“

และ นายฉัตรชัย สีเลี้ยง หรือ จ่าชัย อินทร์มี สามี หมอเตย ผู้ต้องหาที่ 2ในความผิดสำหรับ ผู้ต้องหาที่ 2 ในข้อหา ”เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินและเป็นธุระจัดหา โฆษณา ไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่น

โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

มีรายงานว่า ในวันนี้ผู้ต้องหาทั้งสองไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวทั้งสองไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป