18 พฤษภาคม 2568 ความคืบหน้าการหายตัว ของดีเจเตเต้ นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ ดีเจหนุ่มหน้าตาดี ชาวจ.กาฬสินธุ์ อายุ 33 ปี เมื่อเช้ามืดวันที่ 14 พ.ค. 2568 โดยแฟนสาวสงสัยว่าถูกอุ้มฆ่า เหตุเกิดภายในหมู่บ้านพฤกษากาญจน์ 5 ซอย 7 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และมีการแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี
ล่าสุด วันนี้ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7(ผบช.ภ.7) นำกำลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ตำรวจชุดสืบสวนเมืองกาญจนบุรี ชุดสืบสวนภูธรลาดหญ้า พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิ พิทักษ์กาญจน์ เดินทางเข้าตรวจสอบจุดพบศพดีเจเตเต้ กลางป่าลึก ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยการเดินทางไปยังจุดพบศพต้องใช้รถโฟวิลลุยป่าเข้ามานานกว่า 20 นาที ก่อนจะเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 5 นาที
โดยพบศพของดีเจเตเต้ อยู่ในสภาพนอนตะแคง มีเชือกเปล สีเขียว มัดมือทั้งสองข้างไพล่หลังเอาไว้ มีรอยคล้ายถูกยิงที่ศีรษะตรงกระหม่อม 2 นัด สภาพศพเริ่มบวมอืดมีหนอนชอนไชยั้วเยี้ยส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งสถาบันนิติเวช เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ผู้พบศพคนแรก ให้ข้อมูลว่า เมื่อ 3 วันก่อน เข้าป่ามาเดินหาเก็บของป่าและเก็บเห็ด แต่เนื่องจากในวันดังกล่าวมีฝนตกท้องฟ้ามืดครึ้มทำให้เดินหลงทาง เข้ามาบริเวณจุดที่พบศพ และพบขาของศพยื่นออกมาจากชายป่า ด้วยความตกใจจึงไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ๆและรีบกลับไปที่บ้านของตัวเอง แต่เมื่อกลับไปที่บ้านแล้ว ตลอดทั้งคืนกลับเห็นแต่ภาพขาศพที่ลอยวนเวียนอยู่ในหัว จึงไปเล่าให้กับญาติฟัง ประกอบกับญาติเห็นข่าวของดีเจเตเต้ที่หายตัวไป ในวันนี้จึงได้ตัดสินใจเดินทางกลับเข้ามายังจุดที่พบศพอีกครั้ง และเห็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของศพ ตรงกับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ดีเจเตเต้ใส่ในคืนก่อนหายตัวไป ถึงแน่ใจว่าน่าจะเป็นศพของดีเจเตเต้ และรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เดินทางเข้ามาตรวจสอบดังกล่าว
ด้านนางสาวเปรมยุดา แฟนสาวของ ดีเจเตเต้ ให้ข้อมูลว่า ก่อนจะเกิดเรื่อง เคยมีการพูดคุยกับดีเจเตเต้ถึงเรื่องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับนางสาวน้ำหลายครั้ง โดยตนพยายามขออย่าให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกัน ซึ่งดีเจเตเต้ก็บอกว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกันแล้ว ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้ จะรุนแรงถึงขั้นต้องเอาชีวิตกัน
ขณะที่ นายวิเชียร พ่อของดีเจเตเต้ กล่าวว่า หลังจากได้พบศพแล้วก็รู้สึกเบาใจขึ้น ที่อย่างน้อยได้เจอศพลูก หลังจากนี้จะเข้าไปทำพิธีเชิญวิญญาณ และนำศพของลูกกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา
พ่อขอดีเจเตเต้ เปิดใจถึงพฤติการณ์การก่อเหตุของคนร้ายด้วยว่า การก่อเหตุของคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะถึง 2 นัด ถือว่าโหดเหี้ยมมาก ตนอยากจะฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยทำงานอย่างเต็มที่ ติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ให้ชาวบ้านรู้สึกว่าตำรวจไทยสามารถเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้