ไล่ความเชื่อมโยง เส้นทางการเงิน “ทิดแย้ม – พระลูกวัด – สีกา”

16 พฤษภาคม 2568 เรื่องราวฉาวโฉ่สะเทือนวงการสงฆ์ กรณีตรวจสอบพบ พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม หรือ เจ้าคณะภาค 14 กระทำการทุจริตยักยอกเงินวัดจากบัญชีธนาคารของวัด โอนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว เพื่อนำไปเล่นเว็บพนันออนไลน์ (บาคาร่า) กว่า 300 ล้านบาท โดยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงได้เข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนมีการออกหมายจับ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568

 

กระทั่งมีการออกหมายจับ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน และพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง ในช่วงค่ำวันเดียวกันนั้น

 

และวันเดียวกัน มีการจับกุม น.ส.อรัญญาวรรณ อายุ 28 ปี นายหน้าเว็บพนันออนไลน์ ผู้ต้องหาที่ร่วมกับ อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัดไปแทงพนันออนไลน์  

 

ล่าสุด วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ ทิดแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พบเส้นเงินมีความเชื่อมโยงกับ น.ส.อรัญญาวรรณ ผ่านการที่ให้พระมหาเอกพจน์ พระลูกวัดไร่ขิง

 

โดยพฤติการณ์พระลูกวัดนำเงินไปฝากที่ตู้รับฝากเงินอัตโนมัติตามที่ต่างๆ ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง รวม 6 สาขา เพื่อเข้าบัญชี น.ส.อรัญญาวรรณ จำนวนหลายครั้ง เป็นเงิน 31,400,000 บาท

 

อย่างไรก็ตาม พฤติการณ์พระลูกวัดรูปดังกล่าว มีเหตุอันควรน่าเชื่อว่า เป็นการรับฝาก หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือเพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มา ลักษณะเป็นการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ ไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่ได้รับจากการประกอบอาชีพปกติ เป็นการปกปิดที่มาของเงิน เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจพบที่มาหรือต้นทางของเงินที่ได้นำเข้าบัญชีธนาคาร น่าเชื่อว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าว

 

ทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับพระมหาเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ ตามหมายจับที่ 604/2568 ลงวันที่ 29 ม.ค.2568 ในความผิดร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออีเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐามผิดฐาน ฟอกเงินเพราะเหตที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งปัจจุบันพระมหาเอกพจน์ ได้ทำการสึก และหลบหนีการจับกุมตั้งแต่ น.ส.อรัญญาวรรณ ถูกจับกุมครั้งแรก เมื่อช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา

 

โดยล่าสุดตำรวจได้คุมตัว นายเอกพจน์ มาสอบปากคำแล้ว

 

 

ด้านเว็บพนันออนไลน์ “LAGALAXY911” เคยถูกตำรวจไซเบอร์ หรือ บช.สอท. จับกุมตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 โดยครั้งนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผบก.อก.บช.สอท. พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ขอศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 24 ราย ประกอบด้วย ผู้ดูแลการเงิน , โปรแกรมเมอร์ , พนักงานดูแลบัญชีธนาคารรับโอน-ถอน และบัญชีม้ารับโอนเงิน

 

ก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.ชลบุรี และ จ.นครปฐม จับกุมผู้ร่วมเครือข่าย 12 ราย ในจำนวนนี้มี น.ส.อรัญญาวรรณ  อายุ 28 ปี ทำหน้าที่เจ้าของบัญชีธนาคารและดูแลเส้นทางการเงิน หรือโบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ ได้ที่บ้านพักใ นหมู่บ้านดัง ต.ไร่ขิง อ.สามพราม จ.นครปฐม ก่อนที่เดือน ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา ได้ขยายผลจับ 2 ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นสมาชิกแก๊งรถซิ่งชื่อดัง ทำหน้าที่ยิงแอดโฆษณาและบริหารการเงินของเว็บ

 

จากการสืบสวนพบเว็บพนันเครือข่ายดังกล่าว ได้จดทะเบียนนิติบุคคลในรูปแบบบริษัทเพื่อทำการฟอกเงิน จำนวน 3 บริษัท และยังพบว่าบริษัทตั้งอยู่ในชุมชนแออัด และกรรมการบริษัทเป็นบุคคลที่อาศัยอยู่ในชุมชน

 

จากการสันนิษฐานคาดว่า อาจถูกหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวมาจดทะเบียนนิติบุคคลดังกล่าว จากการตรวจสอบทั้ง 3 บริษัทนั้น พบข้อมูลว่า ตั้งแต่ เม.ย.-ก.ค.2567 บริษัท ก. มีเงินหมุนเวียนประมาณ 250 ล้านบาท บริษัท ข. มีเงินหมุนเวียนประมาณ 200 ล้านบาท และตั้งแต่ พ.ค.-ก.ย. 2567 บริษัท ค. มีเงินหมุนเวียนประมาณ 362 ล้านบาท รวมทั้ง 3 บริษัท พบเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนกว่า 800 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนพบว่า น.ส.อรัญญาวรรณ นอกจากจะเป็นนายหน้าเว็บพนันออนไลน์แล้ว ยังทำหน้าที่เป็นบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บพนัน จากข้อมูลพบว่าบัญชีของ น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นบัญชีแถวที่ 3 ในการรับผลประโยชน์ โดยรับโอนเงินจากนิติบุคคลรายหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นบัญชีแถวที่สองและเป็นบัญชีพักเงิน ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 จำนวน 37 ครั้ง รวมเป็นเงิน 48,790,225 บาท

 

จากนั้นได้โอนเงินกลับไปยังบัญชีนิติบุคคลดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 จำนวน 85 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 97,056,000 บาท และยังโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารอื่นของตนเอง น่าเชื่อว่าเป็นบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บไซต์พนันออนไลน์ จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นจำนวนเงิน 480,000 บาท

 

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีนิติบุคคลอีก 2 บริษัท โอนเงินเข้าบัญชี น.ส.อรัญญาวรรณ ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน  2567 ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2567 จำนวน 15 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 8,467,988 บาท และตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 19 กันยายน 2567 จำนวน 27 ครั้ง รวมเป็นเงิน 40,064,241 บาท