ไฟไหม้โรงงานเฟอร์ฯ ฉลองกรุง 55 คุมเพลิงในวงจำกัด นายกฯห่วงมลพิษ

12 พฤษภาคม 2568 กรณีเกิดเหตุไฟไหม้โกดังโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.10 น. ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นโรงงาน 2 ชั้น แนวราบยาวจากพื้นดิน ยกพื้นสูงเป็นชั้นลอย โดยทำห้องใต้ดินไว้เก็บของ และวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงตัวสินค้า

 

โดยเพลิงไหม้โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงตลอดทั้งคืน ขณะที่ภายในอาคารไม่มีผู้ติดค้าง รถดับเพลิงกว่า 30 คัน ระดมเข้าฉีดน้ำดับเพลิง

 

โดยวันนี้(12พ.ค.68) เวลา 09.30 น. สำนักงานเขตลาดกระบัง แจ้งว่า ยังมีเปลวเพลิงช่วงท้ายโรงงาน และมีกลุ่มควันจำนวนมาก โดยสำนักงานเขตลาดกระบัง เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้อาคารเก็บสินค้า ซอยฉลองกรุง 55 ทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่

 

 

• ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนวัดลำพะอง ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว
• อาคารโรงยิม โรงเรียนวัดทิพพาวาส ซอยฉลองกรุง 53 แขวงลำปลาทิว
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนหมู่บ้านพัฒนาทิพพาวาส ซอยฉลองกรุง 53 แขวงลำปลาทิว
• อาคารหอประชุมสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว

 

เพื่อรองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้สามารถเข้าพักพิงได้ มีเจ้าหน้าที่เขตคอยอำนวยความสะดวก จัดที่นอนและน้ำดื่มไว้บริการ และศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) จัดทีมเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองสุขภาพผู้ได้รับผลกระทบในเบื้องต้น

 

ขณะเดียวกันช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุไฟไหม้โรงงาน ซอยฉลองกรุง 55

ในเบื้องต้นได้มีการสังเกตการณ์จากมุมสูงของโรงเรียนลำพะอง และได้เข้าเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อให้กำลังใจผู้ได้รับความช่วยเหลือ พร้อมทั้งตรวจสอบบริเวณโดยรอบ

 

รวมทั้ง สำนักงานเขตลาดกระบัง ประกาศแจ้งเตือนอีกครั้งชาวลาดกระบังและพื้นที่ใกล้เคียงโปรดสวมหน้ากากอนามัย ระมัดระวังควันพิษจากเหตุเพลิงไหม้

 

 

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Ing Shinawatra ระบุว่า “จากกรณี ไฟไหม้ โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ที่เขตลาดกระบัง ตั้งแต่เมื่อวานเย็นที่ผ่านมา ดิฉันได้รับรายงานจากทางกทม.​ , ท่านธีรรัตน์ รมช. กระทรวงมหาดไทย ได้เข้าไปดูแลการควบคุมเพลิง ณ จุดเกิดเหตุ โดยล่าสุดควบคุมเพลิงโดยรอบได้แล้ว แต่ยังมีบางจุดของโรงงานที่ยังมีไฟไหม้อยู่

 

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปดูแลและควบคุมเพลิงอย่างเต็มกำลังค่ะ และได้ประสาน ปภ. , สาธารณสุข และ กรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบค่ามลพิษในอากาศ เพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน

 

ดิฉันขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ขณะนี้นะคะ ทั้งเจ้าหน้าที่จากภาครัฐและอาสาสมัครทุกท่าน ที่เสียสละเข้าไปช่วยเหลือและดูแลสถานการณ์ค่ะ”