ตร.ตั้ง 4 ประเด็น เหตุคนร้ายประกบยิงหนุ่มวัย 34 ปี ซอยนวลจันทร์ 22

จากกรณีที่เมื่อคืนวานนี้ ( 3 พ.ค.2568 ) เกิดเหตุการณ์คนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนประกบยิงนายทศพล อายุ 34 ปี จนเสียชีวิต หน้าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งภายในซอยนวลจันทร์ 22 ซึ่งขณะนี้ ตำรวจได้ระดมกำลังฝ่ายสืบสวนทั้งจากสืบนครบาล และสืบ สน.โคกคราม เร่งไล่ล่าติดตามตัวคนร้ายเพื่อมาดำเนินคดี 

4 พฤษภาคม 2568 ช่วงเช้า พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เปิดเผยว่า คดีดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และสืบสวนเพื่อแกะรอยเบาะแสพิสูจน์ทราบคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นมือปืนเพราะมีความชำนาญทั้งการก่อเหตุ การเฝ้าเป้าหมาย และการหลบหนี 

ส่วนการสอบปากคำแฟนสาว และครอบครัวของผู้ตายนั้น ถือว่าได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวนคดี

ทั้งนี้ จากการสอบปากตำและรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นตำรวจเคยตั้งประเด็นการสืบสวนสอบสวนเอาไว้ 4 ประเด็น ขณะนี้ยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็น

• เรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ของผู้ตายเคยต้องโทษก่อนหน้านี้ 
• ปัญหาทะเลาะวิวาททั้งก่อนและหลังรับโทษ
• ปัญหาเรื่องชู้สาว 
• เรื่องติดการพนัน 

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า ในช่วงเที่ยงหรือบ่ายวันนี้ (4 พ.ค.2568) ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะเดินทางมาประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีที่ สน.โคกคราม 

พร้อมกันนี้ นายสิทธิชัย แหยมสด พ่อของนายทศพล ผู้เสียชีวิตที่ถูกประกบยิงในซอยนวลจันทร์ 22 ได้เดินทางมาที่สน.โคกคราม เพื่อทำเอกสารเกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกชาย โดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ ตนเองก็แทบไม่ได้นอน กินอะไรไม่ลง และมีอาการความดันขึ้น เนื่องจากเครียดที่สูญเสียลูกชายไป จึงทำให้ตนไม่อยากจะพูดอะไรในขณะนี้ 

สำหรับตัวลูกชายแล้ว เป็นคนมีอุปนิสัยที่ดี ขี้เล่น สนุกสนานกับเพื่อนฝูง แต่ปกติไม่ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ทว่าช่วง 2-3 วันก่อนเกิดเหตุได้มาหาตนแทบทุกวัน เพื่อมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็คือในคืนก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณ 3 ทุ่ม ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาได้เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน จากการสังเกตเห็นว่าเขาก็มีท่าทีปกติ ไม่ได้มีท่าทีรีบร้อนแต่อย่างใด 

อย่างไรก็ตาม ตัวลูกชายเองไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวอะไรให้ตนฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องปัญหาส่วนตัว และเรื่องแฟนสาว ตนจึงไม่ทราบว่าลูกชายไปที่ตึกจุดเกิดเหตุเพื่ออะไร ส่วนแฟนสาวคนปัจจุบันของลูกชาย ตนก็ไม่ทราบและยังไม่เคยเจอหน้าเลย 

สำหรับศพลูกชายยังอยู่ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และจะยังไม่รับศพไปประกอบพิธีตามศาสนาเนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการพูดคุยกับทางครอบครัวในเรื่องสถานที่จัดงานศพ แต่คาดว่าจะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดต่อไป