จำแนกเอกสารตึก สตง. 121 ลัง แบ่งเป็น 3 ส่วน กำชับอย่ารื้อปล่องลิฟท์

2 พฤษภาคม 2568 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบเอกสารที่ตรวจยึดมาจาก ตึก สตง.ถล่ม จำนวน 121 ลัง ว่า เมื่อวานนี้(1พ.ค.68) ได้มีการเปิดเอกสารตึก สตง.ครบทุกลังแล้ว และมีการคัดกรองว่า เอกสารใดบ้างที่จะนำมาใช้พิจารณาเข้าสำนวนคดี ซึ่งใช้เกือบจะ 100% ของเอกสารทั้งหมด โดยจะมีการแบ่งเอกสารเป็น 3 ส่วน คือ

 

 

• ส่วนที่ 1 เอกสารกิจการร่วมค้าที่ทำหน้าที่ในการก่อสร้าง การสั่งซื้ออุปกรณ์วัสดุ และการดำเนินการในการก่อสร้าง
• ส่วนที่ 2 การแก้ไขแบบ
• ส่วนที่ 3 เอกสารของ สตง. เจ้าของสถานที่ สรุปทั้งหมด ทั้งกระบวนการก่อสร้าง เริ่มตั้งแต่การออกแบบ การซื้อวัสดุ และการดำเนินการในการก่อสร้างว่า มีขั้นตอนเป็นมาอย่างไร

 

ส่วนเอกสารบางส่วนที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง จะส่งคืนให้กับเจ้าของเอกสาร

 

สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ จะมาดูรายละเอียดในเอกสารที่ตรวจยึดมาและจะเรียกเจ้าของเอกสารเข้ามาชี้แจง รวมทั้งจะมีการพิจารณาเชิญพยานบุคคลที่อยู่ในวันที่เกิดเหตุเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย

 

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในตอนนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนเป้าหมาย ยังคงมุ่งเน้นไปที่การทำงานร่วมกับ กรมโยธาธิการและผังเมือง และพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ในการเข้าไปเก็บพยานหลักฐานทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นตัวคอนกรีตและเหล็ก ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการก่อสร้าง เพื่อหาข้อสรุปว่าที่ตึกถล่มเป็นเพราะวัสดุอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐานหรือมีความผิดพลาดในเรื่องของการก่อสร้างหรือไม่ และตอนนี้ทาง DSI ก็ได้มีการประสานไปยังชุดทำงานว่าถ้าหากเจอปล่องลิฟท์อย่าเพิ่งดำเนินการรื้อถอน เพราะจะต้องเข้าไปเก็บพยานหลักฐานตรงจุดนั้น ซึ่งถือว่ามีรายละเอียดเยอะกว่าตรงจุดอื่น

 

ส่วนการสอบปากคำวิศวกร ถือว่ามีความคืบหน้าไปอย่างมาก วันนี้ได้นัดหมายวิศวกร 10 คน เข้ามาสอบปากคำเป็นวันสุดท้าย ส่วนวิศวกรที่ถูกปลอมแปลงลายเซ็น จะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบไม่เกิน 30 วัน

 

อย่างไรก็ตาม กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค จะเข้าไปขอความเห็นจากกรมโรงงาน เกี่ยวกับประเด็นเรื่องฝุ่นแดง ว่า มีความเชื่อมโยง กับเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างหรือไม่