รวบนักร้องดัง "I-ZAX" เอี่ยวแก๊งยานรก กลุ่มลูกค้าเป็นดารา-ไฮโซ

18 มีนาคม 2568 ที่สำนักงาน ป.ป.ส. พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ 2 คดีสำคัญ

คดีแรก สืบเนื่องจากทางการจีนได้จับกุมชาวไทย 2 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ 53 กรัม ได้ที่ท่าอากาศยานหนานจิง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2567 จากนั้นได้มีการขยายผลออกหมายจับหญิงไทย อายุ 43 ปี ในข้อหาจัดหาจ้างวานผู้ลำเลียงยาเสพติดจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน

ซึ่งต่อมา ป.ป.ส. ได้รับการประสานข้อมูลจากคณะกรรมาธิการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน หรือ NNCC ผ่านทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปักกิ่ง และได้สืบสวนติดตามจนสามารถประสานจับกุมหญิงผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการจีน และเพื่อนสาวอีก 1 คน ได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 13  มี.ค. ที่ผ่านมา

พร้อมของกลางไอซ์ และยาเอ็กซ์ตาซี ซุกซ่อนภายในกล่องเครื่องสำอาง ขณะเตรียมจัดส่งผ่านเดลิเวอรี่ให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังพบ ยัง ยาบ้า, ไอซ์, เอ็กซ์ตาซี, เคตามีน, MDMA และอุปกรณ์การบรรจุ อยู่ในห้องพักด้วย รวมทั้งตรวจยึดรถจักรยานยนต์และสมุดบัญชีธนาคารจำนวน 15 เล่ม

ทั้งนี้ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมหญิงทั้ง 2 ราย ปรากฏว่า มีไลน์กลุ่มเด้งเข้ามาที่มือถือของผู้ต้องหาหญิงวัย 43 ปี เพื่อติดต่อขอสั่งซื้อยาไอซ์จำนวน 2 กรัม โดยจะมารับที่คอนโดของผู้ต้องหาหญิง ทางเจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ต้องหาหญิงนำยาไอซ์ลงมาให้ชายคนดังกล่าว เมื่อส่งมอบยาไอซ์จำนวน 2 กรัมให้กับชายคนดังกล่าวแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แล้วพบว่า นายพัชรพล ปานพุ่ม หรือ แซ็ก นักร้องนำวง I-ZAX เจ้าของบทเพลงดัง "ดอกไม้กับหัวใจ" วัย 47 ปี

จากการสืบสวนขยายผลพบว่า ผู้ต้องหาหญิงทั้งสองคนได้ผสมสีผสมอาหารและทองคำเปลวลงในยาไอซ์เพื่อเพิ่มมูลค่า โดยมีชื่อเรียกในวงการว่า "ผงทองคำ "หรือ "ผงพิงค์โกลด์" มีกลุ่มลูกค้าสำคัญเป็นบรรดาศิลปิน ดาราและบุคคลในแวดวงไฮโซ

นายปฤณกล่าวว่า หญิงชาวไทยวัย 43 ปี ที่ถือเป็นตัวการใหญ่ นอกจากจะมีพฤติการณ์ลักลอบส่งยาเสพติดไปยังประเทศจีนแล้ว ยังมีพฤติการณ์ลักลอบส่งยาไอซ์ไปยังสถานบันเทิงย่านสุทธิสารและรัชดา และยังพบว่า ผู้ต้องหาหญิงรายนี้สร้างกลุ่มไลน์เพื่อรับสั่งซื้อยาเสพติด โดยในกลุ่มดังกล่าวนั้นประกอบไปด้วยบรรดาศิลปิน นักร้องและไฮโซ รวมทั้งบุคคลทั่วไปกว่า 100 คน ใช้วิธีการส่งยาด้วยการว่าจ้างให้วินมอเตอร์ไซค์ นำพัสดุที่ซุกซ่อนยาเสพติดเอาไว้ไปส่งยังลูกค้า โดยที่วินมอเตอร์ไซค์ก็จะไม่รู้ว่าภายในพัสดุดังกล่าวมีอะไร

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า หญิงคนดังกล่าวเคยทำงานเป็นเบื้องหลังอยู่ในวงการบันเทิง เป็นผู้จัดการศิลปิน แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงแล้ว เชื่อว่าน่าจะมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดเช่นนี้ประมาณ 10 ปีได้

ส่วนหญิงวัย 42 ปีที่จับกุมด้วยกันขนาดอยู่ในห้องนั้น พบว่าเป็นเพื่อนกันและเคยทำงานอยู่เบื้องหลังวงการบันเทิงเช่นเดียวกัน ทั้งคู่ถูกดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งให้การรับสารภาพ ขณะนี้ถูกส่งไปดำเนินคดีที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ซึ่งหลังจากนี้จะนำสมุดบัญชีธนาคารทั้ง 15 เล่มไปตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไปว่า มีตัวการใหญ่ที่เหนือกว่านี้อีกหรือไม่

สำหรับประเด็นของอดีตนักร้องชื่อดังรายนี้ เบื้องต้นในชั้นจับกุมได้ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าได้ซื้อผ่านผู้ต้องหาหญิงรายนี้มานานกว่า 2 ปีแล้วผ่านกรุ๊ปไลน์ดังกล่าว โดยมีความถี่สั่งทุกวัน วันละ 1-2 กรัม โดยอดีตนักร้องยังยอมรับอีกว่า ตนเองมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดมานานแล้ว เนื่องจากเป็นนักร้อง และยาเสพติดที่ซื้อไปนั้นก็รับไปใช้เสพเอง ไม่ได้นำไปจำหน่ายต่อแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดต่อไป

ด้าน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า พฤติการณ์ของอดีตนักร้องชายคนนี้ถือว่า เข้าข่ายข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท1 จึงได้ให้ทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาดังกล่าวไป เนื่องจากยาเสพติดที่พบในตัวของอดีตนักร้องชายนั้นมีจำนวน 2 กรัม ซึ่งถือว่ามีปริมาณที่มาก ไม่ได้มีปริมาณที่เล็กน้อย รวมทั้งขณะที่จับกุมตัว อดีตนักร้องชายไม่ได้เสพยาเสพติด จึงไม่เข้าข่ายความผิดฐานเสพยาเสพติด ที่จะทำให้ผู้ต้องหามีโอกาสสามารถสมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามกฎหมาย เพื่อไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการทางยุติธรรมได้

โดยเน้นย้ำว่า อดีตนักร้องชายคนนี้จะต้องเข้าสู่กระบวนการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท1 นั้น มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เรียกว่าโทษสูงสุดคือ 10 ปี โดยดำเนินคดี 2 กรรม ส่วนตัวผู้ต้องหาหญิงพบว่า มีการครองครองเพื่อจำหน่าย มีโทษหนักจำคุกตลอดชีวิตเเละการกระทำมีเป็นจำนวนมากผิดหลายกรรม

สำหรับบุคคลในวงการบันเทิงที่คาดว่า น่าจะอยู่ในกลุ่มไลน์ซื้อขายยาเสพติด 100 กว่าคนนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูล และขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานอย่างครบถ้วน เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่อยู่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าวต่อไป ซึ่งตอนนี้เเม้ว่าสมาชิกในกลุ่มซื้อขายยา จะมีการกดออกจากไลน์หรือเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ เเต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการดูดข้อมูลไว้หมดเเล้ว

 

นอกจากนี้ ป.ป.ส. ยังได้แถลงผลการจับกุมชาวเวียดนาม 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการประเทศเวียดนาม โดยได้หลบหนีหมายจับมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย และมีพฤติการณ์เป็นตัวการใหญ่จัดส่งยาเสพติดกลับไปยังประเทศเวียดนาม ซึ่งการจับกุมดังกล่าวสามารถตรวจยึดของกลางเป็นยาเสพติดประเภทต่าง ๆ เช่น เคตามีน โคเคน Happy Water อาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุน และตรวจยึดทรัพย์สินได้ประมาณ 4.2 ล้านบาท อีกทั้งยังสามารถจับกุมลูกน้องชาวเวียดนามของผู้ต้องหาชาวเวียดนามรายนี้ได้อีก 3 ราย

ซึ่งทั้งสองคดีถือว่าเป็นความร่วมมือด้านการข่าวร่วมกับหน่วยงานระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานด้านยาเสพติดของประเทศจีนและประเทศเวียดนาม จนสามารถทำการสืบสวนและจับกุมขบวนการยาเสพติดระหว่างประเทศครั้งนี้ได้