
จากกรณีที่ "ชายชาวเยอรมัน" วัย 41 ปี ซึ่งมีภรรยาเป็นชาวไทยและอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มีพฤติกรรมคลุ้มคลั่ง บุกเข้าไปก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และข่มขู่ "ทันตแพทย์หญิง" ใน คลินิกทันตกรรมหลายแห่ง ทั่วเมืองนครราชสีมา ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.67
โดยผู้ก่อเหตุได้แสดงพฤติกรรมรุนแรง ทั้งการบุกเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของทันตแพทย์ ทำลายข้าวของ รวมถึงใช้กำลังทำร้ายร่างกาย เช่น การจับหัวโขกผนังและกัดปากทันตแพทย์หญิงจนได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมีการส่งข้อความข่มขู่ผ่านโซเชียลมีเดีย สร้างความหวาดผวาให้กับทันตแพทย์ในพื้นที่อย่างมาก แม้ว่าจะมีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งที่ สภ.เมืองนครราชสีมา และ สภ.จอหอ ไปแล้ว
แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ผู้ก่อเหตุยังคงใช้ชีวิตตามปกติและก่อเหตุลักษณะเดิมซ้ำๆ ทำให้ชมรมทันตแพทย์จังหวัดนครราชสีมา ต้องออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมตัวโดยด่วน เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม และอาจนำไปสู่เหตุรุนแรงยิ่งขึ้นหากไม่มีการควบคุมหรือบำบัดรักษาอย่างเหมาะสม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
18 มีนาคม 2568 ล่าสุด พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา (ผบก.จ.นครราชสีมา) ได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่เจ้าของคดี ดำเนินการรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อส่งให้ศาลจังหวัดนครราชสีมา พิจารณาออกหมายจับชาวชาวต่างชาติรายนี้แล้ว
โดยแหล่งข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ ซึ่งรับแจ้งคดีนี้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.67 และได้มีการตั้งข้อหากับชายชาวต่างชาติรายดังกล่าว 3 ข้อหา ได้แก่
1.ทำร้ายร่างกาย
2.บุกรุก
3.ทำให้เสียทรัพย์
โดยพนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกเพื่อให้มารับทราบข้อหาไปแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวน
ส่วนกรณีที่ไปก่อเหตุซ้ำอีก 2 ครั้ง ในคลินิกทันตกรรม พื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา และได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ปรากฏว่าทั้ง 2 กรณีผู้เสียหายไม่ประสงค์เอาความ เพราะเห็นว่ามีประวัติรักษาอาการทางจิต จึงไม่ได้มีการออกหมายเรียก
ซึ่งล่าสุดทราบว่าภรรยาของชายชาวต่างชาติดังกล่าว ได้หนีไปอยู่ที่ จ.ชลบุรีแล้ว เพราะทนต่อพฤติกรรมของสามีไม่ไหว
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก "Thai Dental Council" ของ "ทันตแพทยสภา" โพสต์ข้อความเตือนถึงเรื่องดังกล่าวว่า
"ประกาศแจ้งเตือนสมาชิกทันตแพทยสภา คลินิกทันตกรรม และพี่น้องประชาชน"
ตามที่สื่อมวลชนหลายแขนงได้รายงานว่า มีผู้ป่วยเพศชายซึ่งมีประวัติเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช แต่ขาดยา และใช้กัญชาเกินขนาด ได้เข้าไปตามคลินิกทันตกรรมหลายแห่งตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดเหตุในเขตจังหวัดนครราชสีมา โดยบุคคลดังกล่าวทำทีว่าเข้ารับการรักษาทางทันตกรรม แต่ขณะทำการรักษา กลับมีพฤติกรรมก้าวร้าว ข่มขู่ คุกคาม และทำร้ายร่างกายทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ในคลินิก จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้เกิดความหวาดกลัวจนบางรายไม่กล้าปฏิบัติงาน
ทันตแพทยสภาขอแจ้งเตือนสมาชิก คลินิกทันตกรรม และพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและใกล้เคียง ให้เพิ่มความระมัดระวังบุคคลดังกล่าว
ทันทีที่ได้รับรายงาน ตัวแทนกรรมการทันตแพทยสภา ได้แก่ ทพ.วิวัฒน์ ฉัตรวงศ์วาน และ พ.ต.ทพ.อนวัช สถิตเดชกุญชร ได้เข้าพบ พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ขณะนี้มีการรวบรวมหลักฐานและอยู่ระหว่างดำเนินการออกหมายจับ
ทันตแพทยสภาขอขอบคุณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สื่อมวลชน ที่ให้ความช่วยเหลือในการดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยของสมาชิกทันตแพทยสภา บุคลากรในคลินิกทันตกรรม และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้
ในนามทันตแพทยสภา เรามิได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ และพร้อมยืนเคียงข้างสมาชิกและพี่น้องประชาชนเสมอ
หากท่านใดพบเห็นชาวต่างชาติลักษณะดังที่กล่าวมา ขอให้แจ้งมาที่ ทันตแพทยสภา
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก "ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา" ก็ได้ประกาศแจ้งเตือนให้บุคลากรทางการแพทย์ ทันตแพทย์ รวมทั้งประชาชนทั่วไป ได้ระมัดระวังชายชาวต่างชาติรายนี้ว่าเป็นบุคคลอันตราย หากพบเห็นให้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที