เกาะติด ปฏิบัติการ กสทช.-ตำรวจ ล้มเสา-ตัดเน็ต ปราบแก๊งคอลฯ I Nation Crime

Nation  Crime เกาะติดมาตการการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตัดไฟฟ้า การตัดสัญญาณโทรศัพท์ และสัญญาณอินเตอร์เน็ต

 

 

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะองค์กรกำกับดูแลผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต เปิดปฏิบัติการ ล้มเสา ตัดสาย ทำลายซิม โดยร่วมมือตำรวจ

 

 

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า สายสัญญาณ ถ้าฝ่ายความมั่นคงชี้ว่า IP address อันไหนผิด เราผิดทันที

 

เราได้กำหนดแถบสีให้กับบริษัทที่ลากสายข้ามต่างประเทศ ถ้าสีไม่ตรง หรือไม่มีสติกเกอร์ เราได้เรียน ทหาร ตำรวจ แล้วว่าตัดทันที ไม่ต้องเกรงใจ เพราะฉะนั้นขอให้ประชาชนวางใจได้

ซิมมีการข้ามไปขายฝั่งโน้นเยอะมาก เพราะฉะนั้นจะมีการเชิญโอเปอเรเตอร์มาทุกคน  มีการลงทะเบียนใหม่ เพื่อบล็อกสัญญาณกล่อง ให้โทรไม่ติด และลูกตู้ที่แอบจดเลขหมายไปก่อน ต้องเรียกมาคุย เพื่อจัดระเบียบใหม่

 

 

ทำให้ กสทช.นำโดย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 2 นำโดย พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 ผนึกกำลังเดินหน้ายุทธการระเบิดสะพานโจร ตัดวงจรแก๊งคอลเซนเตอร์ สกัดการลักลอบใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา

 

 

โดยเปิดยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER สกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามแนวชายแดนในพื้นที่ จ.สระแก้ว

 

จุดแรกเป็นการลงพื้นที่ตรวจสอบสายสัญญาณโทรศัพท์ และสายสื่อสาร บริเวณชายแดนไทย-ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ด้านหลังสถานีรถไฟ ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยเจ้าหน้าที่ พบสายสื่อสารกว่า 30 เส้น ถูกโยงไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

 

เจ้าหน้าที่พบว่าเป็นสายสื่อสาร แบบ IPLC หรือ สายสำหรับบริการโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูงแบบส่วนบุคคล (Dedicated Bandwidth) ระหว่างประเทศ ตรงจุดนี้ มีผู้ประกอบการภาคเอกชน เจ้าของสายสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต 13 ราย มาแสดงตนเป็นเจ้าของ

 

โดยผู้ประกอบการ มีการประกอบธุรกิจ 2 รูปแบบ คือ 1.บริการวงจรสื่อสารข้อมูลส่วนตัวความเร็วสูงระหว่างประเทศ หรือ IPLC เป็นธุรกิจบริการสัญญาณ อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ระหว่างบริษัทเดียวกันแต่คนละสาขา หรือ บริษัทกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจ ในส่วนนี้ สัญญาณที่ส่งไปจากไทยจะไม่มีการแปลงสัญญาณจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน 

 

และ 2.บริการเชื่อมต่อสื่อสารข้อมูลอินเตอร์เน็ตผ่านโครงข่าย หรือ IIG เป็นธุรกิจที่บริการสัญญาณ อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์รายใหญ่ ที่ขายทั้งสัญญาณ  เมื่อสัญญาณข้ามประเทศแล้ว IP address จะเปลี่ยนเป็นของประเทศนั้นๆ

 

นาย ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. อธิบายว่า การทำสัญลักษณ์ที่สายสัญญาณ แต่ละสีคือแต่ละบริษัท ที่ถูกกำหนดโดยการไฟฟ้า วันนี้เราเชิญโอเปอเรเตอร์ทุกเจ้า ทั้ง 13 เจ้า ให้มาชี้ของเขา ถ้าไม่มีเจ้าของจะตัดทันที 

 

จากการตรวจสอบพบว่ามีทั้งหมด 32 สายสัญญาณ แต่มีเจ้าของมาแสดงตนเพียง 29 สัญญาณ เจ้าหน้าที่จึงตัดสายสัญญาณ 3 เส้น ส่วนอีก 29 สายสัญญาณ เจ้าของจะต้องชี้แจงว่าสัญญาณที่ส่งไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ได้ตรวจสอบถึงวัตถุประสงค์ในการส่ง ว่าส่งไปประกอบธุรกิจหรือส่งไปเพื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หากชี้แจงไม่ได้จะยกเลิกและถอนใบอนุญาตการส่งสัญญาณข้ามประเทศทันที

“กสทช. เรียกสัญญามาดูอยู่ ให้เขามาดูว่าคู่ค้าคือใคร ให้มาช่วยบอก จริงๆโดยธรรมชาติการที่เขาได้รับใบอนุญาตจากเรา พอเขาเซ็นสัญญากับฝั่งโน้น เขาจะต้องส่งสัญญามาให้เราตรวจอยู่แล้ว โดยพื้นฐานการตรวจสอบเบื้องต้นมีอยู่แล้ว แต่ว่าลูกค้าใหม่ๆยังไม่ส่งมาเราก็เลยเรียกมาหมด ซึ่งรายเดิมก็บอกว่าขายอินเตอร์เน็ต ซึ่งฝั่งโน้นเขาก็ไม่ได้แจ้งว่าทำอะไร เราแค่รู้ว่าเขาไปเซ็นกับใคร แต่เราไม่รู้ว่าทางโน้นเขาใช้ทำอะไร เราไม่ทราบถึงขั้นนั้นว่าส่งไปแล้วใช้ทำอะไรต่อ แต่ในใบอนุญาตบอกว่าอยู่แล้วว่า ถ้าคุณนำออกไปทำให้เกิดความเสียหายหรือกระทำความมั่นคงของเรายกเลิกสัญญา”รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.กล่าว และว่า 

 

การพิสูจน์ง่ายๆคือ ความผิดปกติ อาทิ ใช้ 24 ชั่วโมงไม่ตกเลยมันผิดวิสัยในการใช้อยู่แล้ว ถ้า 24 ชั่วโมงไม่ได้นอนเลย เราก็ต้องขอดูแล้วว่า ใน 1 เดือน คุณใช้ทำอะไร ต้องมาชี้แจงกับเรา เขาก็ต้องไปถามฝั่งโน้นว่าทำอะไร 

นอกจากนี้ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ยังเผยถึง เสาสัญญาณ ที่มี 2-3 เสา ที่สูงเกิน 50-60 เมตร ซึ่งเกินความจำเป็น ซึ่งมีการล้มเสา เราได้กำหนดมาตรการเสา ทั้งระยะห่างจากชายแดน ความสูง กำลังส่งและความแรงของสัญญาณ ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่นานาชาติกำหนดแล้ว ปกติสัญญาณจะล้นไปในประเทศเพื่อนบ้านได้นิดๆหน่อยๆ กำลังส่งจะต้องไม่เกินจากชายแดนราชอาณาจักรไทย 

รวมทั้ง ในพื้นที่ชายแดนอรัญประเทศ เจ้าหน้าที่ตรวจพบเสาสัญญาณโทรศัพท์บริเวณหลังตลาดเบญจวรรณ ห่างจากชายแดนกัมพูชา 200 เมตร โดยเจ้าหน้าที่พบว่า แม้ได้มีการปรับทิศทางแผงส่งสัญญาณจากฝั่งประเทศกัมพูชากลับมาหาฝั่งประเทศไทยแล้ว แต่ยังคงพบว่ามีสัญญาณรอดออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จากการตรวจสอบพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้เครื่องลักลอบนำสัญญาณเพื่อกระจายไปยังฝั่งของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้สัญญาณดังกล่าวหลุดออกไปอีก เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปิดการกระจายสัญญาณในขณะนี้ และได้ประสานกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เพื่อให้นำกล่องเสาอากาศที่กระจายสัญญาณไปยังประเทศเพื่อนบ้านลงมา คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วันในการดำเนินการ

 

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กล่าวถึงความผิดปกติในจุดนี้ว่า ที่ผิดเป็นเรื่องเทคนิค เขาอาศัยจุดที่มีคลื่นเล็ดลอดออกไป แล้ว ก็ไปบูทสัญญาณฝั่งโน้นให้แรงขึ้น เราต้องเอาออก เราจะรื้อ และไปใช้เสาในเมืองที่ล่นไปซัก 2-3 กิโลเมตร และให้เขายิงกำลังส่งมาสุดแค่แนวชายแดน

นอกจากนี้ ที่ชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชาวจ.กระบี่ 3 คน และปราจีนบุรี 2 คน 

 

โดย หญิงเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกว่าจ้างจาก จ.กระบี่ ให้เปิดบัญชี บอกว่า ผู้ว่าจ้างจะให้ค่าจ้างบัญชีละ 5,000 บาท ถ้าเปิดหลายบัญชีก็ได้มากขึ้น ระหว่างนั้นลูกสาวโทรมาถามว่าอยู่ที่ไหน ส่งโลเกชั่นไปให้เขา ลูกบอกว่าเขาจะพาแม่ไปขายฝั่งกัมพูชา แม่ไม่ต้องไป เราเลยกลัว ไม่ไปแล้ว ไม่เองเงินแล้ว ให้สักแสนก็ไม่เอา ระหว่างนั้นมีคนโทรมาหา บอกว่าเขาเสียหายไปตั้งหลายแสนหลายหมื่น 

 

ทั้งนี้พบว่ามีคนถูกว่าจ้างหลอกให้มาเปิดบัญชีม้า จาก จ.กระบี่ 3 คน และปราจีนบุรี 1 คน ที่ตำรวจช่วยเอาไว้ได้ โดยพบว่าพวกเขากำลังจะถูกพาข้ามชายแดนไปฝั่งปอยเปต เพื่อสแกนใบหน้า

นอกจากนี้ Nation  Crime สำรวจการล้มเสาสัญญาณในพื้นที่ชายแดนจ.กาญจนบุรี จุดเชื่อมต่อกับเมียนมา โดย กสทช.ได้ร่วมกับ ตำรวจไซเบอร์ หรือ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)เปิดปฏิบัติการระเบิดสะพานโจร 

 

โดยลงพื้นที่ตรวจสอบจุดติดตั้งเสาสัญญาณและลากสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตข้ามฝั่งไปยังประเทศเมียนมา ซึ่งต้องสงสัยว่าอาจถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และพนันออนไลน์ รวมทั้งหมด 5 จุด ทั่วด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ประกอบด้วย 

จุดแรก บริเวณวัดเจดีย์สามองค์ พบว่ามีสายสัญญาณแปลกปลอมต่อเข้ามาเชื่อมโยงออกไปยังประเทศเมียนมา

 

 

จุดที่ 2 สายสัญญาณอินเตอร์เน็ต บริเวณด่าน ตม.เจดีย์สามองค์ ไม่พบความผิดปกติ

 

จุดที่ 3 เสาส่งสัญญาณขนาดเล็ก ที่ถูกติดตั้งบนอาคาร 2 ชั้น ในซอยพาณิชย์ 6 ซึ่งเสาสัญาณถูกหันหน้าไปฝั่งประเทศเมียนมา เจ้าหน้าที่เตรียมเรียกผู้ประกอบการให้ข้อมูลการติดตั้ง ก่อนระงับการส่งสัญญาณข้ามแดน

จุดนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. กล่าวเสริมว่า จากการตรวจสอบ พบว่ามีจุดหนึ่งมีความผิดปกติตรงที่เสาสัญญาณไม่สูงมาก เพราะปกติเสาจะต้องยกสูงเพื่อให้การกระจายตัวของสัญญาณดีขึ้น ข้อสังเกตข้อที่ 2 คือจุดนี้เราพบว่า ห่างจากชายแดนเพียงไม่กี่เมตร แล้วก็มีการหันเสาสัญญาณไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และใกล้กลับที่ทำการ call center หรือบ่อนออนไลน์ ซึ่งพวกนี้จะทำรวมกันอยู่แล้ว อยู่ในเขตประเทศเพื่อนบ้าน มีแค่แนวกำแพงกั้นชายแดน แล้วก็ทำติดกับแนวกำแพงเลย

จุดที่ 4 เป็นบ้านพักข้างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสังขละบุรี ซึ่งลากสายอินเตอร์เน็ตข้ามไปยังบ้านหลังหนึ่ง ของทหารยศผู้กอง ในตัวเมืองพญาตองซู พบผู้อยู่อาศัยคือนายนิรันดร (สงวนนามสกุล) ให้ข้อมูลว่าครอบครัวเปิดสัญญาณอินเตอร์เน็ตรายเดือน และนางเทิง ชาวเมียนมา ขอเชื่อมสัญญาณไปใช้ โดยมีช่างชาวเมียนมาเป็นผู้ติดตั้ง แต่ไม่ทราบว่าถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมายหรือไม่ 

 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบตัวแปลงสัญญาณ poi ที่แปลงสัญญาณเป็นไฟเบอร์ออฟติกคุณภาพสูง ติดตั้งอยู่ภายในบ้าน ทำให้ส่งสัญญาณได้ไกลขึ้น จึงประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตัดสายนำสัญญาณ 

 

 

ตรงจุดนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. กล่าวเสริมว่า มีการลักลอบดัดแปลงใช้เครื่องขยายสัญญาณ แล้วทำการลักลอบข้ามสายไปที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีการดัดแปลงระบบเน็ตบ้านจากระบบเน็ตบ้านธรรมดาเป็นสาย ไฟเบอร์ออฟติก ให้มีกำลังการส่งสูงขึ้น เสถียรขึ้น และส่งไปยังฝั่งโน้นซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับจุดนี้ ซึ่งเราทราบว่าเป็นบ่อนออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์

โดย นายยี สามีนางเทิง ชาวพญาตองซู เดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า เหตุที่เชื่อมอินเตอร์เน็ตเพราะต้องการนำมาให้ลูกเรียนหนังสือควบคู่กับการใช้สตาร์ลิงค์  ที่สั่งผ่านช่องทางออนไลน์มาจากต่างประเทศ ซึ่งปกติจะใช้ระหว่างเดินทางเข้าป่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยึดอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่ 

 

จุดที่ 5 จุดต้องสงสัยลากสายไฟ ไปให้กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ใช้ ภายในพื้นที่ด้อยพัฒนา จากการตรวจสอบพบว่า มีเสาไฟฟ้าตั้งอยู่ 1 ต้น และมีมิเตอร์ไฟฟ้าติดอยู่หลายอัน เจ้าหน้าที่เข้าใจว่ามีบ้านบางหลังขออนุญาตใช้ไฟฟ้า แต่มีมิเตอร์หนึ่ง ซึ่งมีค่าไฟสูงกว่าความน่าจะเป็น โดยมีค่าไฟอยู่ที่ 10,000 กว่าบาท เมื่อเทียบกับบ้านของชาวบ้านใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า มิเตอร์ไฟฟ้าดังกล่าว ถูกโยงสายไฟข้ามไปยังประเทศเมียนมา จึงสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตัดไฟและยึดมิเตอร์ไฟฟ้าไว้เป็นหลักฐาน

 

ในรอบเดือนที่ผ่านมา นอกจากการตัดสายสื่อสารในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้เดินหน้าปฏิบัติการ ตัดสายสื่อสาร อย่างเข้มข้น เพื่อสกัดกั้นการทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ โดยมีการดำเนินการในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดน อาทิ

 

ชายแดนไทย-ลาว บริเวณ จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ลักลอบนำสัญญาณอินเตอร์เน็ต ลากสายข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 จากการตรวจสอบพบว่ามีการลากสายลึกเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านไกลกว่า 5 กิโลเมตร

 

ชายแดนไทย-เมียนมา (บริเวณแม่สอด)ทลายเสาและสายเคเบิลเถื่อนขนาดใหญ่บริเวณแนวชายแดนแม่สอด พบท่อเคเบิลขนาดใหญ่จำนวน 16 เส้น นับเป็นการจับกุมสายเคเบิลเถื่อนขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา พบว่าเครือข่ายดังกล่าวลอบกระจายสัญญาณไปยังพื้นที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่ฝั่งตรงข้าม

 

ปฏิบัติการทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานภาครัฐในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถึงความเอาจริงเอาจังในการปราบปรามแก๊งเหล่านี้ให้หมดไป

 

ชมคลิปรายการ Nation Crime