19 กุมภาพันธ์ 2568 ความคืบหน้าพบศพสาวคาราโอเกะ นางสำอางค์ หรือ "หนุ่ย" อายุ 44 ปี ถูกฆ่าทิ้งอยู่ในโพรงหญ้า ริมถนนพระประโทน-บ้านแพ้ว ช่วงแยกไฟแดงดอนโค อ.บ้านเเพ้ว จ.สมุทรสาคร ภายหลังตำรวจสอบปากคำหนุ่มพม่า ผู้ต้องสงสัย ยอมรับว่า เป็นคนก่อเหตุ
โดยช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านเเพ้ว พาผู้ต้องหา 2 ราย ไปทำเเผนประกอบสำนวน เเละชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งผู้ลงมือก่อเหตุ คือ นาย Aung Zin Myo (ออง ซิน เมียว) อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา
ระหว่างที่ตำรวจ พาตัวไปทำเเผน ที่ร้านคาราโอเกะที่ผู้ตายทำงานอยู่ปรากฏว่า เพื่อนสนิท ของสาวคาราโอเกะ ที่ถูกฆ่าตาย ปรี่เข้ามาหยุมหัว ที่ทำกับเพื่อนร่วมงานของเขาอย่างน่าสงสาร
CG เพื่อน เผย หนุ่มพม่า เมาเข้าร้านตั้งเเต่เเรก
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่เกิดเหตุบริเวณเเพ้วพลาซ่า ซึ่งเป็นซอยประกอบการร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ เรียงรายติดๆ กันนับ 10 ร้าน ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของผู้ตาย เล่าเรื่องราวให้ฟัง โดยเรียกผู้ก่อเหตุว่า "ไอ้หน้าบาก" เธอเล่าว่า พวกแรงงานพม่า มากันครั้งเเรก ตอนเเรกมากัน 2 คน เเละ ตามมาอีก 1 คน รวม 3 คน
“มันเมามาจากที่อื่นก่อนเเล้ว มาถึงก็ปรี่มาจับเเขนเธอ เเต่เธอบอกสะบัด บอกว่าไม่เอา พูดไม่รู้เรื่อง จากนั้นก็เลยไปที่ หนุ่ยคนตาย นั่งกินเหล้าสักพัก จากนั้นหนุ่มพม่าก็พาหนุ่ยออกไป เพิ่งจะทราบข่าวเมื่อเช้าก็ตกใจ มันโหด โกรธเเละโมโหที่มาทำเเบบนั้น”
เพื่อนของผู้ตาย บอกด้วยว่า ปกติที่ร้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีพม่า เพิ่งเข้ามาเมื่อคืน
จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเเรมม่านรูดเเห่งหนึ่ง ห่างจากคาราโอเกะ ประมาณ 1 กิโลเมตร สอบถามพนักงานที่ดูเเลให้ข้อมูลว่า ป้าของเธอเป็นคนเข้ากะกลางคืน ทราบว่า หนุ่มพม่าพาหญิงผู้ตายเข้ามาจริง เเต่ก็ไม่มีมีเหตุการณ์ทะเลาะเบาะเเว้งใดใด อยู่ที่ม่านรูดไม่นานก็ขี่รถ จยย.พากันออกไป
จากนั้นนักข่าวไปที่จุดพบศพ ซึ่งห่างจากโรงเเรมม่านรูด เเละคาราโอเกะ ที่ทำงานผู้ของตาย ที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณเเยกดอนโค พบว่าจะเป็นโพรงหญ้าเข้าไป ซึ่งจุดบริเวณนี้พบศพของผู้ตาย อยู่ในสภาพเปลือยท่อนล่าง ท่อนบนใส่ยกทรง ที่ขาขวาของผู้ตาย มีรอยกัด
ชาวบ้านละเเวกนั้น เปิดเผยว่า ตอนที่ตำรวจมาพบ ตอนเเรกคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ เนื่องจากห่างจากศพ ประมาณ10 เมตร มีรถจักรยายนต์ล้ม ส่วนพงหญ้าคนก่อเหตุนอนเมาไม่ได้สติ จึงถูกตำรวจคุมตัวไปก่อน ในฐานะผู้ต้องสงสัย เชื่อว่าปมสาเหตุมาจากเรื่องค่าตัว ที่สาวคาราโอเกะยังไม่ได้รับ จึงไม่ยินยอมจึงขัดขืน และมีปากเสียงกัน จนถึงขั้นลงมือบังคับขืนใจ ฉีกเสื้อผ้าของผู้ตาย
ชาวบ้าน บอกว่าในพื้นที่บ้านเเพ้ว ไม่เคยเกิดเหตุฆาตกรรมรุนเเรงเเบบนี้ แม้จะเป็นเเรงงานต่างด้าว เเต่ก็ไม่สามารถออกความคิดเห็นอะไรได้ เพราะยังต้องใช้เเรงงานบ้านเขา
จากนั้นผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปที่หัองเช่าของผู้ก่อเหตุ อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 30 กิโลเมตร ไปสอบถามจากชาวพม่าที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน เเต่ปรากฏว่า ไม่มีใครรู้จักกับคนก่อเหตุ เนื่องจากกลัวว่า จะถูกมองเป็นคนไม่ดีไปด้วย
เมื่อคุยกับชาวบ้านที่เป็นคนไทย เล่าว่า ทั้งคู่มาซื้อของที่ร้านบ่อย คนหนึ่งมีภรรยาเเล้ว ยังมีลูกเล็ก ไม่คิดว่าจะไปก่อเหตุรุนเเรง พื้นที่บริเวณนี้ตำบลจินดา จะมีคนชาวเมียนมาเยอะ เพราะมีโรงงาน ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ส่วนใหญ่จะไปมาหาสู่กัน เมื่อไม่กี่วันมานี้ โรงงานในพื้นที่ก็เพิ่งจะคัดกรองคนออกเยอะเหมือนกัน แรงงานพม่าที่ดีๆ มีเยอะ แต่คนที่ก่อเหตุก็ทำเสื่อมเสียแรงงานต่างด้วยกัน
ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ตำรวจนำผู้ต้องหาทั้งสองราย มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยการสอบปากคำยังต้องใช้ล่ามที่เป็นชาวเมียนมา เบื้องต้น นาย ออง ซิน เมียว ยอมรับว่า ลงมือก่อเหตุจริง โกรธที่ผู้ตายไม่ยินยอม ขัดขืน จนมีปากเสียงทะเลาะกัน ตำรวจจึงคุมตัว นายออง ซิน เมียว ออกมาฝากขัง ปรากฏว่าจากการสังเกตตามใบหน้า เต็มไปด้วยรอยขีดข่วน และมีท่าทีสะลึม สะลือ
แหล่งข่าวชุดสืบสวนให้ข้อมูลว่า จากการสอบปากคำ คนก่อเหตุอ้างว่า ครั้งแรกฝ่ายหญิงสมยอม หลังจากนั้นออกจากม่านรูด ผู้หญิงเป็นคนขับ ซึ่งบ้านฝ่ายหญิงอยู่หลังวัดดอนโค หนุ่มเมียนมาจะขอมีอะไรด้วยอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เกิดการขัดขืน ไม่ได้มีการข่มขื่น ประกอบกับโกรธที่ถูกคนตายตบหน้า จึงลงมือบีบคอ เกิดการต่อสู้กัน จนมีรอยข่วนบนใบหน้า
สาเหตุที่หลังก่อเหตุ นายอองซินเมียว ไม่ได้หนีไปไปน เพราะเมา อีกทั้งคนก่อเหตุหากุญเเจรถ จยย.ไม่เจอ เพราะตกอยู่ตกบริเวณศพของผู้ตาย สำหรับผู้ก่อเหตุฆ่าคนเดียว แต่จะต้องถูกดำเนินคดีอื่นด้วย เนื่องจากตรวจสอบมือถือพบว่า มีการเล่นเว็บพนัน ออนไลน์ เล่นสล็อต อีกทั้งยังต้องส่งตรวจปัสสาวะ เพื่อหายาเสพติด และจากการตรวจสอบพบ นายอองซินเมียวและเพื่อน หลบหนีเข้าเมือง
ขณะที่ครอบครัวผู้ตาย น้าสาวให้ข้อมูลว่า น.ส.หนุ่ย ออกจากบ้านไปตั้งเเต่ปีที่เเล้ว จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย เพราะเขาไม่กลับบ้าน น.ส.หนุ่ย มีลูกสาว 3 คน ฝากยายเลี้ยงไว้ตั้งเเต่เด็ก ลูกๆ ต่างก็เเยกออกไปมีครอบครัว ไม่ได้ติดต่อกับแม่ เพิ่งจะทราบเมื่อเช้า หลังสามีเขาตายปีที่เเล้ว เขาออกมาจากบ้านมา แต่ละคนก็แยกกันอยู่ เพราะต่างคนต่างทำมาหากิน มาทราบข่าวเมื่อเช้าก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะถูกกระทำแบบนี้
ส่วน อา ของ นส.หนุ่ย เปิดเผยว่า ไม่ได้ติดต่อกันนานเเล้ว เขาออกไปรับจ้างทั่วไป อยากให้มีการจัดการเพราะแรงงานต่างด้าวเยอะ อยากให้มีการคัดกรองประวัติ คนที่จะเข้ามาประกอบอาชีพในพื้นที่
หลังจากนี้ครอบครัวจะนำร่างของ น.ส.หนุ่ย ทำพิธีทางศาสนาที่วัดดอนโค อ.บ้านเเพ้ว จ.สมุทรสาคร ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ตำรวจ เร่งหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้ชัดเจน และจะนำตัวส่งศาลฝากขังวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.)